การศึกษาผลของวิตามินอีต่อระดับภาวะเครียดจากออกซิเดชัน และสารต้านอนุมูลอิสระในเลือดและนํ้าไขข้อของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำ : โรคข้อเข่าเสื่อม (knee osteoarthritis, KOA) เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของข้อเข่าซึ่งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ทำให้เกิด อาการเจ็บปวดอย่างเรื้อรังและอาจสูญเสียการใช้งานของข้อเข่า ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ข้อพิการและ ทุพพลภาพ ปัจจุบันมีหลักฐานงานวิจัย พบว่าภาวะเครียดจากออกซิเดชันมีบทบาทสำคัญเกี่ยวข้องกับพยาธิกำเนิดของโรคข้อเข่าเสื่อม วิตามินอีเป็นสารที่มีคุณสมบัติด้านอนุมูลอิสระและสามารถลดภาวะเครียดจากออกซิเดชันได้วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ เพื่อศึกษาผลของการเสริมวิตามินอีต่อระดับภาวะเครียด จากออกซิเดชันและระดับสารต้านอนุมูลอิสระในเลือดและน้ำไขข้อของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม วัสดุและวิธีการ : การศึกษานี้ทำการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมจำนวน 25 ราย ทั้งก่อนและหลังได้รับการเสริมวิตามินอี โดยการรับประทานวิติมินอี ขนาด 400 อินเตอร์เนชั่นแนลยูนิตทุกวัน เป็นระยะเวลา 2 เดือน โดยตรวจวัดระดับ lipid peroxidation ด้วยวิธี thiobarbituric acid reactive substances (TBARs) ระดับไนไตรต์โดยวิธี Griess และระดับ total antioxidant capacity (TAC) โดยอาศัยหลักการ trolox equivalent antioxidant capacity (TEAC) และ ferric reducing antioxidant power (FRAP) ผลการศึกษา : หลังจากเสริมวิตามินอี ให้กับผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมเป็นระยะเวลา 2 เดือน ระดับ TBARs ในพลาสมาและน้ำไขข้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจาก 1.427 ± 0.075 pM เป็น 0.999 ± 0.110 pM (P = 0.001) ในพลาสมา และ 1.462 ± 0.123 pM เป็น 1.124 ± 0.084 pM ในน้ำไขข้อ (P = 0.029) ระดับไนไตรต์ในพลาสมาและน้ำไขข้อลดลงแต่ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระดับ TEAC และ FRAP ในพลาสมาและน้ำไขข้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติหลังได้รับการเสริมวิตามินอี สรุปผล : การเสริมวิตามินอีขนาด 400 อินเตอร์เนชั่นแนลยูนิต เป็น ระยะเวลา 2 เดือน ส่งผลดีต่อระดับสารต้านอนุมูลอิสระ ในเลือดและน้ำไขข้อ โดยสามารถลดระดับ TBARs และเพิ่มระดับ TEAC และ FRAP ในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้ การศึกษานี้จึงสนับสนุนประโยชน์ของวิตามินอีในการลดภาวะเครียดจากออกซิเดชันในโรคข้อเข่าเสื่อม อย่างไรก็ตามการเสริมวิตามินอีควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และนักโภชนาการอย่างใกล้ชิด
Article Details
กรณีที่ใช้บางส่วนจากผลงานของผู้อื่น ผู้นิพนธ์ต้อง ยืนยันว่าได้รับการอนุญาต (permission) ให้ใช้ผลงานบางส่วนจากผู้นิพนธ์ต้นฉบับ (Original author) เรียบร้อยแล้ว และต้องแนบเอกสารหลักฐาน ว่าได้รับการอนุญาต (permission) ประกอบมาด้วย
เอกสารอ้างอิง
Ahlback S. Osteoarthrosis of the knee. A radiographic investigation. Acta Radiol Diagn (Stockh). 1968: Suppl 277: 7-72.
Benzie IFF, strain J. The ferric reducing ability of plasma (FRAP) as a measure of antioxidant power": the FRAP assay. Anal Biochem. 199t>; 239(1): 70-t>.
Blankenhorn G. Clinical effectiveness of Spondyvit (vitamin E) in activated arthroses. A multicenter placebo-controlled double-blind study], z Orthop Ihre Grenzgeb. 1986; 124(3): 340-3.
Brand c, Snaddon J, Bailey M, et al. Vitamin E is ineffective for symptomatic relief of knee osteoarthritis: a sixmonth double blind, randomised, placebo controlled study. Ann Rheum Dis. 2001; 60(10): 946-9.
Fiddler R. Collaborative study of modified AOAC method of analysis for nitrite in meat and meat products. J Assoc Off Anal Chem. 1977; 60(3): 594-9.
Fiddler R. Collaborative study of modified AOAC method of analysis for nitrite in meat and meat products. J Assoc Off Anal Chem. 1977: 60(3): 594-9.
Henrotin Y, Kurz B, Aigner T, et al. Oxygen and reactive oxygen species in cartilage degradation: friends or foes? Osteoarthritis Cartilage. 2005; 13(8): 643-54.
Karan A, Karan MA. Vurall p. et al. Synovial fluid nitric oxide levels in patients with knee osteoarthritis. Clin Rheumatol. 2003; 22(t>): 397-9.
Machtey I, Ouaknine L. Tocopherol in Osteoarthritis: a controlled pilot study. J Am Geriatr Soc. 1978; 26(7): 328-30.
Madhujith T. Izydorczyk M, Shahidi F, et al. Antioxidant properties of pearled barley fractions. J Agric Food Chem. 2006; 54(9): 3283-9.
Meyers DG, Maloley PA, Weeks D. et al. Safety of antioxidant vitamins. Arch Intern Med. 1996; 156(9): 925-35.
Sarban S, Kocyigit A. Yazar M. et al. Plasma total antioxidant capacity, lipid peroxidation, and erythrocyte antioxidant enzyme activities in patients with rheumatoid arthritis and
osteoarthritis. Clin Biochem. 2005: 38(11): 981 -6.
Shen YC, Chen SL, Wang CK, et al. Contribution of tomato phenolics to antioxidation and down-regulation of blood lipids. J Agric Food Chem. 2007; 55(16): 6475-81.
Stuyvesant VW, Jolley WB. Anti-inflammatory activity of d-G-tocopherol (vitamin E) and linoleic acid. Nature. 1967; 216(5115): 585-6
Surapaneni KM, Venkataramana G. Status of lipid peroxidation, glutathione, ascorbic acid, vitamin E and antioxidant enzymes in patients with osteoarthritis. Indian J Med Sci. 2007 Jan; 61(1): 9-14.
Sutipornpalangkul พ, Morales NP. Charoencholvanich K, et al. Lipid peroxidation, glutathione, vitamin E, and antioxidant enzymes in synovial fluid from patients with osteoarthritis. I nt J Rheum Dis. 2009; 12(4): 324-8.
Wang Y, Prentice LF, Vitetta L, et al. The effect of nutritional supplements on osteoarthritis. Altern Med Rev. 2004; 9(3): 275-9b.
Wieland HA, Michaelis M, Kirschbaum BJ, et al. Osteoarthritis—an unbeatable disease? Nat Rev Drug Discov. 2005; 4(4): 331-44
