การศึกษาการปนเปื้อนของอะฟลาท็อกซินเอ็ม1 ในถังน้ำนมดิบและนมสำเร็จรูป ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
อะฟลาท็อกซินเอ็ม1 (AFM1) ก่อให้เกิดพิษต่อตับ และยังก่อให้เกิดมะเร็งได้ในมนุษย์ (IARC 2002) เมื่อปนเปื้อนมาในน้ำนม จะส่งผลอันตรายต่อผู้บริโภคได้โดยตรง ดังนั้นการศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปริมาณการปนเปื้อนของอะฟลาท็อกซินเอ็ม1 ในน้ำนมดิบจากฟาร์มและนมสำเร็จรูปที่ผ่านกระบวน การผลิตและจัดจำหน่ายในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน วัสดุและวิธีการ : สุ่มเก็บตัวอย่างน้ำนมดิบจากฟาร์มสมาชิกสหกรณ์โคนมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทั้งหมด 46 ฟาร์ม เก็บในเดือนพฤศจิกายนและ เดือนธันวาคม 2554 ทั้งหมด 92 ตัวอย่าง ตัวอย่างน้ำนมพาสเจอไรซ์ ยูเอชที และสเตอริไรซ์ ที่ผลิตและจำหน่ายในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จำนวน 23 ตัวอย่าง วิเคราะห์ด้วยวิธี Competitive Eenzyme Linked Immunosorbant Assay (ELISA) หา ปริมาณการปนเปื้อน AFM1 และใช้ ANOVA วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ ผลการศึกษา : พบ AFM1 ปนเปือนในตัวอย่างน้ำนม 111 ตัวอย่าง (96.26%) จากตัวอย่างทั้งหมด 115 ตัวอย่าง ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.285 ±0.262 ng/ml แบ่งเป็นน้ำนมดิบ(Raw milk) ทั้งหมด 92 ตัวอย่าง พบการปนเปื้อนในตัวอย่างทั้งหมด100% โดยมีค่าความเข้มข้นระหว่าง 0.012-0.973 ng/ml ค่าเฉลี่ยเป็น 0.331 ± 0.264 ng/ml และน้ำนมสำเร็จรูปที่ผ่านกระบวนการผลิต (commercial milk) 23 ตัวอย่าง พบการปนเปื้อน 19 ตัวอย่าง(82.60%) มีค่าความเข้มข้นระหว่าง 0.040.680 ng/ml ค่าเฉลี่ยเป็น 0.099 ± 0.154 ng/ml สรุปผล : จากตัวอย่างที่พบการปนเปือน AFM1 ในน้ำนม 77.39% มีค่าเกินมาตรฐานที่ กำหนดของประเทศในกลุ่มยุโรปคือไม่ควรเกิน 0.05 µg/L และมีเพียงร้อยละ 23.48 เท่านั้น ที่เกินมาตรฐานของประเทศสหรัฐอเมริกา(0.5 µg/L) ถึงแม้ปริมาณที่พบจะน้อย แต่หากบริโภคนมและผลิตภัณฑ์นมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้ ดังนั้นผู้เกี่ยวข้องจึงควรเร่งดำเนินการควบคุมคุณภาพของน้ำนม กำหนดมาตรฐานการปนเปื้อน ให้ความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกร ปรับปรุงคุณภาพน้ำนม ลดระดับการปนเปื้อนเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
Article Details
กรณีที่ใช้บางส่วนจากผลงานของผู้อื่น ผู้นิพนธ์ต้อง ยืนยันว่าได้รับการอนุญาต (permission) ให้ใช้ผลงานบางส่วนจากผู้นิพนธ์ต้นฉบับ (Original author) เรียบร้อยแล้ว และต้องแนบเอกสารหลักฐาน ว่าได้รับการอนุญาต (permission) ประกอบมาด้วย
เอกสารอ้างอิง
รุจิรา ศรีจนทร์. 2552. ปริมาณลารพิษจากเชื้อราอะฟลาทอกชิน ในอาหารสตร์ตามโครงการมาตรฐานฟาร์ม ภายในประเทศ. 52 (2)
European Commission. Commission Regulation (EC) No. 1881/2006 of 19 December 2006. OJEU. 364: 5¬24.
Frobish, RA , Bradley, BD, Wanner, DD, Long-Bradley, PE and Harison, H (1986) Aflatoxin residues in milk of daily cows after ingestion of naturally contaminated grain, Journal of food Protection, 49,PP.781-785
IARC. 2002. Some traditional herbal medicines, some mycotoxins, naphthalene and styrene. Monograph on the evaluation of carcinogenic risk to humans. International Agency for Research for Cancer, Lyon. 82.
Prandini A, Tansini G, Sigolo S, Filippi L, Laporta M, Piva G. 2009. On the occurrence of aflatoxin M1 in milk and dairy products. Food Chem Toxicol. 47:984-991
Ruangwises S. and Ruangwises N. 2009. Occurrence of aflatoxin M1 in pasteurized milk of the school milk project in Thailand. J Food Prot. 72:1761-1763
Ruangwises S. and Ruangwises N. 2010. Aflatoxin M1 contmination I Raw Milk within the Central Region of Thailand. Bull Environ Contam Toxicol. 85: 195¬198
US FDA. 1996. Guidance for industry. Q2B Validation of analytical procedures: Methodology. US Department of Health and Human Services, Food and Drug Administration, Center for Drug Evaluation and Research, Maryland.
Van Egmond, H.p. 1989. Introduction. Mycotoxins in Dairy Products. Elsevier Applied Science, London and New York. 1-10.