ความคงตัวทางกายภาพและทางเคมีของตำรับยากลีเซอรีนจากสารสกัดชะเอมไทย และสารสกัดพิกัดยาชะเอมทั้ง 2
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำ: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคงตัวทางกายภาพและทางเคมีของตำรับกลีเซอรีนจากสารสกัดชะเอมไทย และสารสกัดพิกัดยาชะเอมทั้ง 2 วิธีดำเนินการวิจัย: เตรียมสูตรตำรับกลีเซอรีน 2 รูปแบบ คือ ตำรับกลีเซอรีนชะเอมไทย และตำรับกลีเซอรีนพิกัดยาชะเอมทั้ง 2 และประเมินความคงตัวทางกายภาพและทางเคมีของสูตรตำรับที่เตรียมขึ้นหลังจากผ่านสภาวะเร่ง (Accelerated condition) และสภาวะการเก็บรักษาจริง (Real-time storage condition) โดยเปรียบเทียบกับสูตรตำรับในวันที่ 0 ผลการวิจัย: ผลการศึกษาพบว่าในวันที่ 0 ตำรับกลีเซอรีนจากสารสกัดชะเอมไทยและสารสกัดพิกัดยาชะเอมทั้ง 2 มีสีน้ำตาลเหลืองถึงแดง เนื้อเนียนละเอียด ไม่มีการแยกชั้น ไม่มีตะกอนนอนก้นและตะกอนติดขอบภาชนะ ค่าความหนืดอยู่ในช่วง 117.33-145.00 cP ค่า pH เท่ากับ 7.00 รวมถึงมีปริมาณสารประกอบฟีนอลิกทั้งหมดใกล้เคียงกัน และพบสาร beta-sitosterol ในทีแอลซีโครมาโทแกรมเช่นเดียวกัน ในขณะที่เมื่อผ่านสภาวะเร่ง และสภาวะการเก็บรักษาจริง พบว่าตำรับกลีเซอรีนชะเอมไทย และตำรับกลีเซอรีนชะเอมทั้ง 2 ยังมีแนวโน้มความคงตัวทางกายภาพและทางเคมีที่ดี โดยมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเฉพาะสี ตะกอนนอนก้นและตะกอนติดขอบภาชนะ สรุปผลการวิจัย: ตำรับกลีเซอรีนทั้ง 2 รูปแบบ มีความคงตัวทางกายภาพและทางเคมีที่ดีคล้ายคลึงกัน องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยนี้อาจนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับบรรเทาอาการอักเสบในช่องปากที่มีองค์ประกอบของตัวยาชะเอมไทยและชะเอมเทศให้มีความคงตัวมากขึ้นต่อไป
Article Details
กรณีที่ใช้บางส่วนจากผลงานของผู้อื่น ผู้นิพนธ์ต้อง ยืนยันว่าได้รับการอนุญาต (permission) ให้ใช้ผลงานบางส่วนจากผู้นิพนธ์ต้นฉบับ (Original author) เรียบร้อยแล้ว และต้องแนบเอกสารหลักฐาน ว่าได้รับการอนุญาต (permission) ประกอบมาด้วย
เอกสารอ้างอิง
Awaad AS, Maitland DJ, Donia AM, et al. Novel flavonoids with antioxidant activity from a Chenopodiaceous plant. Pharm Biol 2012; 50: 99-104.
Bakasatae N, Kunworarath N, Yupanqui CT, et al. Bioactive components, antioxidant, and antinflammatory activities of the wood of Albizia myriophylla. Rev Bras Farmacogn 2018; 28: 444-450.
Food and Drug Administration, Ministry of Public Health. National List of Essential Medicines. Bangkok: The Agricultural Cooperative Federation of Thailand. Limited; 2013.
Foundation of Thai Traditional Medicine, Ayurved School, Center of Applied Thai Traditional Medicine, Faculty of Medicine, Siriraj Hospital, Mahidol University. The Textbook of Thai Traditional Medicine (Padthayasard Songkroh) Volume I 2550BE. Bangkok: Supavanich; 2007.
Hosseinzadeh H. and Nassiri-Asl M. Pharmacological effects of Glycryrhiza spp. and its bioactive constituents: update and review. Phytother Res 2015; 29: 1868-1886.
Hsieh MC, Shen YJ, Kuo YH, et al. Antioxidative activity and active compounds of longan (Dimocarpus longan Lour.) flower extracts. J Agri Food Chem 2008; 56: 7010-7016.
Joycharat N, Boonma C, Thammavong S, et al. Chemical constituents and biological activities of Albizia myriophylla wood. Pharm Biol 2016; 54: 62-73.
Joycharat N, Issarachote P, Sontimuang C, et al. Alpha-glucosidase inhibitory activity of ethanol extract, fractions and purified compounds from the wood of Albizia myriophylla. Nat Prod Res 2018; 32: 1291-1294.
Joycharat N, Thammavong S, Limsuwan S, et al. Antibacterial substances from Albizia myriophylla wood against cariogenic Streptococcus mutans. Arch Pharm Res 2013; 36: 723-730.
Krasantisuk S, Runnarong H. The Development of Skin Care Sericin Lotion. A Special Project. Bachelor of Science in Pharmacy. Bangkok: Mahidol University; 2006.
Maneenoon K, Jaisamut P. Group of Materia Medica Volume 1: Jun-La-Phi-kat. Songkhla: Faculty of Traditional Thai Medicine, Prince of Songkla University; 2017.
Phattanawasin P, Sotanaphun U, Sriphong L, et al. Thin-layer chromatography and image analysis for quantitation. Thai Bull Pharm Sci 2018; 13: 79-92.
Santiyanon N. Stability of a pharmaceutical products and storage conditions. Thai Pharm Health Sci J 2008; 3: 180-187.
Steinrut L, Itharat A, Ruangnoo S. Free radical scavenging and lipid peroxidation of Thai medicinal plants used for diabetic treatment. J Med Assoc Thai 2011; 94: 178-182.
