การศึกษารูปแบบการสั่งใช้ยาราคาสูงในโรคมะเร็ง
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำ: ปัจจุบันมียาใหม่ในการรักษาโรคมะเร็งคือรักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง มุ่งเน้นยับยั้งการแพร่กระจายของมะเร็งและมีผลต่อการส่งเลือดไปเซลล์มะเร็ง แม้ว่ายาเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพการรักษา แต่มูลค่ายากลุ่มนี้สูงถึงหนึ่งใน 10 อันดับแรกของมูลค่ายาในโรงพยาบาล ดังนั้นควรมีการทบทวนการใช้ยากลุ่มนี้ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการสั่งใช้ยาราคาสูงในผู้ป่วยโรคมะเร็ง วิธีดำเนินการวิจัย: ทำศึกษาแบบพรรณนาย้อนหลังโดยทบทวนเวชระเบียนในผู้ป่วยที่ได้รับยา Bevacizumab (BVM), Trastuzumab (TTM), Oxaliplatin (OXP), Irinotecan (IRI), Gefitinib (GFN), Erlotinib (ELN), Imantinib (IMN) และ Sunitinib (SNN) และถูกวินิจฉัยเป็น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอดชนิด non small cell (NSCLC) มะเร็งชนิด Gastrointestinal stromal (GIST) ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2552 ถึง 31 ธันวาคม 2554 โดยเก็บข้อมูลพื้นฐานของผู้ป่วย รูปแบบการใช้ยา และมูลค่ายา ผลการศึกษาวิจัย: ผู้ป่วยที่เข้าการศึกษาทั้งหมด 297 คน มีอายุเฉลี่ย 60.7 ± 11.2ปี ผู้ป่วย 88.2% ใช้สิทธิเบิกจ่ายตรง ผู้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม 32 คน ได้รับ TTM และ 78% ที่รับยาจนครบรอบการรักษา คิดเป็นมูลค่ายา 717,777 บาท/คน, ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ3 และ4 และใช้ยา OXP 139 คน มีผู้ป่วยที่ใช้ยาจนครบรอบการรักษา 54.7% คิดเป็นมูลค่ายา 448,540 บาท/คน, ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะ4 และใช้ยา IRI 42 คน มีผู้ป่วยที่ใช้ยามากกว่า 12 รอบการรักษา 31% คิดเป็นมูลค่ายา 485,390 บาท/คน,ผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 4 และใช้ยา GFN และ ELN 52 คน มีผู้ป่วยใช้ยาจนมีการกระจายของโรค 55.6% ระยะเวลาใช้ยาเฉลี่ย 7±7.6 เดือน คิดเป็นมูลค่ายา 439,017 บาท/คน, ผู้ป่วยเป็นมะเร็งชนิด GIST 12 คน มีผู้ป่วย 11 คนได้รับ IMN โดยใช้ยาจนมีการกระจายของโรค ระยะเวลาใช้ยาเฉลี่ย 18.7±18.4 เดือน คิดเป็นมูลค่ายา 210,148 บาท/คน โดยรวมในผู้ป่วยที่ทำการศึกษาทั้งหมดพบอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาร้อยละ 35.7 ส่วนใหญ่คือระบบเลือด โดยมีผู้ป่วยหยุดใช้ยาจากอาการไม่พึงประสงค์ร้อยละ 4.4 สรุปผลการวิจัย: การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้ยาราคาสูงในการรักษาโรคมะเร็งแต่ละชนิดส่วนใหญ่ได้รับยาจนครบรอบการรักษา หรือจนมีการกระจายของโรค การเลือกใช้ยาเหล่านี้ต้องพิจารณาถึงการหยุดการรักษาก่อนเวลาที่เหมาะสมหรือการ loss follow-up ของผู้ป่วย ซึ่งสะท้อนความไม่คุ้มค่า
Article Details
กรณีที่ใช้บางส่วนจากผลงานของผู้อื่น ผู้นิพนธ์ต้อง ยืนยันว่าได้รับการอนุญาต (permission) ให้ใช้ผลงานบางส่วนจากผู้นิพนธ์ต้นฉบับ (Original author) เรียบร้อยแล้ว และต้องแนบเอกสารหลักฐาน ว่าได้รับการอนุญาต (permission) ประกอบมาด้วย
เอกสารอ้างอิง
Edward R. Winstead, Initial costs of cancer treat¬ment on the rise [online] 2008 [cited 2010 June 26]. Available from: http://www.cancer.gov/ncicancerbulletin/ar¬chive/2008/061008/page5
Ketcharoen A, Pinnoy A, Ritteeveerakul P. Trends in Drug Expenditures in a University Hospital. Thai Journal of Hospital Phar¬macy 2007; 17(suppl): S77-S88.
Ministry of Public Health [online] 2009 [cited 2010 June 26]. Available from: http://bps.ops.moph.go.th/Healthinformation/statistic53/statistic53.pdf
NCCN. Clinical practice guideline in oncology for breast cancer, NCCN.org, version 2.2011, BINV-N 1-6. [online] 2011 [cited 2011 May 12]. Available from: http://www.nccn.com
NCCN. Clinical practice guideline in oncology for colon cancer, NCCN.org, version 2.2012, COL-C 1-7. [online] 2011 [cited 2011 May 12]. Available from: http://www.nccn.com
NCCN. Clinical practice guideline in oncology for non-small cell lung cancer, NCCN.org, version 2.2012, NSCL-F 1-3. [online] 2011 [cited 2011 May 12]. Available from: http://www.nccn.com
NCCN. Clinical practice guideline in oncology for soft tissue sarcoma, NCCN.org, version 1.2013, GIST 5-7. [online] 2011 [cited 2011 May 12].
Social Security Office. Guideline in 7 cancer treat¬ment [online] 2013 [cited 2013 August 21]. Available from: http://www.sso.go.th/wpr/contentjsp?lang=th&cat=868&id=3651
Veerapol K et al. New Strategy of Cancer Target¬ing Chemotherapy. Srinagarind medical journal 2009; 24(1): 36-40.
Zeng X, Karnon J, Wang S, Wu B, Wan X, et al. The Cost of Treating Advanced Non- Small Cell Lung Cancer: Estimates from theChinese Experience. PLoS ONE 2012; 7(10): e48323.