การพัฒนาสูตรตำรับนีโอโซมเพื่อบรรจุสารสกัดตรีผลา

Main Article Content

ธนิสสา รามฤทธิ์
บัญชา ยิ่งงาม
วันดี รังสีวิจิตรประภา

บทคัดย่อ

บทนำ: ตรีผลาประกอบด้วยผลไม้ 3 ชนิด คือ Terminalia chebula, Terminalia bellirica และ Phyllathus emblica ในอัตราส่วน 1:1:1 ตรีผลาเป็นสูตรตำรับที่ได้รับความนิยมของตำรายาอายุรเวท ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการนำมาพัฒนาในทางเครื่องสำอาง การศึกษาในครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสูตรตำรับนีโอโซมเพื่อใช้ในการนำส่งสารสกัดตรีผลา เนื่องจากสารสกัดที่ได้จากสมุนไพรส่วนใหญ่มีปริมาณจำกัด การพัฒนาสูตรตำรับนีโอโซมจึงมีความจำเป็น เพื่อนำส่งสารสกัดตรีผลาไปยังเป้าหมายในการออกฤทธิ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา และลดพิษที่อาจเกิดขึ้น วิธีการดำเนินการวิจัย : นำผลไม้ 3 ชนิด อบให้แห้ง สกัดด้วย 95 % ethyl alcohol โดยวิธีการ maceration 3 รอบ รอบละ 3 วัน ระเหยตัวทำละลายให้แห้งโดยใช้ Rotary evaporator ได้สารสกัดหยาบ กรณีที่ต้องการเตรียมสารสกัดตรีผลา นำสารสกัดหยาบทั้ง 3 ชนิดมาผสมกันในอัตราส่วน 1:1:1 โดยน้ำหนัก สกัดด้วย 95 % ethyl alcohol กรองด้วยกระดาษกรอง 0.22 mm ระเหยตัวทำละลายให้แห้งโดยใช้ Rotary evaporator นำสารสกัดที่ได้เตรียมเป็นตำรับนีโอโซม วัดขนาด วัดค่า polydispersity index (PDI) วัดค่า zeta potential คำนวณค่า % entrapment efficiency (%EE) ผลการศึกษาวิจัย : สูตรตำรับที่เหมาะสมในการเตรียมนีโอโซม ประกอบด้วย span20, total lipid 50 mM, cholesterol 15% และ plant extract 0.1% ได้ขนาดของนีโอโซมเท่ากับ164.89± 0.47 mm และร้อยละการกักเก็บสารสกัดเท่ากับ 47.65± 1.56 และค่า zeta potential มากกว่า 30 mV, ค่า PDI น้อยกว่า 1 เมื่อวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป Response Surface Methodology (RSM) เพื่อหาปัจจัยที่เหมาะสมของสูตรตำรับ พบว่า สูตรตำรับนีโอโซมที่เหมาะสม ประกอบด้วย total lipid 50 mM, cholesterol 10 % และ plant extract 0.1% ได้ขนาดของนีโอโซมเท่ากับ 188.10±16.34 nm และร้อยละการกักเก็บสารสกัดเท่ากับ 46.43±4.20 % สรุปผลการวิจัย : ส่วนประกอบของสูตรตำรับนีโอโซมที่เหมาะสมเพื่อบรรจุสารสกัดตรีผลา ประกอบด้วย total lipid 50 mM, cholesterol 10% และ plant extract 0.1% ได้ขนาดของนีโอโซมที่เหมาะสม ร้อยละการกักเก็บสารสกัดสูงสุด และสูตรตำรับตรีผลาควรเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิห้อง

Article Details

ประเภทบทความ
Research Articles

เอกสารอ้างอิง

Jagetia G, Baliga S, Malagi K, et al. The evaluation of the radioprotective effect of Triphala (an ayurvedic rejuvenating drug) in the mice exposed to γ-radiation. Phytomedicine. 2002; 9, 99–108.

Kumar T, Rungseevijitprapa W, Chaiyarut C, et al. Screening of steroid 5α-reductase inhibitory activity and total phenolic content of Thai plants. Journal of Medicinal Plants Research. 2011. 5(7), pp. 1265-1271

Kumar T, Rungseevijitprapa W, Chaiyarut C, et al. 5α- reductase inhibition and hair growth promotion of some Thai plants traditionally used for hair treatment. Journal of Ethnopharmacology. 2012;139, 765–771

Mukherjee P, Rai, Sujay, et al. Clinical study of Triphala-A wellknown phytomedicine from India. Iranian J. Pharmacol. Ther. 2006; 5, 51–54.

Sandhyaa T, Lathikaa, K, Pandeyb, et al. Potential of traditional ayurvedic formulation, Triphala, as a novel anticancer drug. Cancer Lett. 2006; 231 (2), 206–214.