ภาระการเงินในครัวเรือนของผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้ายที่ได้รับการบำบัดทดแทนไต

Main Article Content

อรอนงค์ วลีขจรเลิศ
ธนนรรจ์ รัตนโชติพานิช
สุรัชดา ชนโสภณ
วนรัตน์ อนุสรณ์เสงี่ยม
จันทร์ทิพย์ กาญจนศิลป์
อมฤต สุวัฒนศิลป์
ธนชัย พนาพุฒิ
ศิริรัตน์ อนุตระกูลชัย
สุพล ลิมวัฒนานนท์
จุฬาภรณ์ ลิมวัฒนานนท์

บทคัดย่อ

              การบำบัดทดแทนไตในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายด้วยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis; HD) และการล้างไตทางหน้าท้อง (Peritoneal dialysis; PD) เป็นการรักษาที่ค่าใช้จ่ายสูง แม้ว่าในปัจจุบัน HD และ PD ได้รับความครอบคลุมภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์ของระบบประกันสุขภาพทั้ง 3 ระบบ คือ ประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม และสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ  ทำให้เพิ่มการเข้าถึงบริการ แต่ยังคงมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่ผู้ป่วยและญาติต้องจ่ายเงินเอง การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินภาระทางการเงินในครัวเรือนของผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วย HD และ PD วิธีการดำเนินการวิจัย: เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา ใช้การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างในการเก็บข้อมูลผู้ป่วยที่โรงพยาบาลระดับตติยภูมิ 2 แห่ง ในช่วงเดือนเมษายน 2560 โดยกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ ผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วย HD หรือ PD อย่างน้อย 1 ปี และมารับการรักษาต่อเนื่อง  สามารถสื่อสารและเข้าใจภาษาไทย และยินดีเข้าร่วมการศึกษา ในการเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามที่พัฒนาขึ้นและผ่านความเห็นชอบของผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน การวิเคราะห์ผลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา  ผลการวิจัย: จำนวนผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 86 ราย เป็นผู้ป่วย HD 42 ราย และ PD 46 ราย ผู้ป่วย HD มีสัดส่วนของผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป (HD ร้อยละ 47.6, PD ร้อยละ 19.6) อาศัยในเมือง (HD ร้อยละ 59.5, PD ร้อยละ 19.6) การศึกษาดีกว่า (มัธยมขึ้นไป HD ร้อยละ 57.6, PD ร้อยละ 23.9)  เป็นผู้ป่วยสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ (HD ร้อยละ 57.19, PD ร้อยละ 4.4) และมีสัดส่วนผู้มีรายได้มากกว่า 5,000 บาทต่อเดือนมากกว่าผู้ป่วย PD (HD ร้อยละ 38.1, PD ร้อยละ 15.2) พบว่ามากกว่าร้อยละ 60 ของผู้ป่วย HD และ PD ไม่มีเงินออม แต่ผู้ป่วย PD มีสัดส่วนผู้ที่มีปัญหาสถานะการเงิน และหนี้สินครัวเรือน มากกว่าผู้ป่วย HD แม้ว่าผู้ป่วย PD ต้องจ่ายเงินเองจากความเจ็บป่วยด้วยโรคไตและภาวะแทรกซ้อนเป็นจำนวนเงินที่น้อยว่าผู้ป่วย HD (มัธยฐาน 1,000 บาทต่อเดือน ในผู้ป่วย PD เทียบกับ 4,000 บาทต่อเดือน  ในผู้ป่วย HD) แต่มีสัดส่วนผู้ที่ความเจ็บป่วยมีผลต่อสถานะการเงินมากกว่าผู้ป่วย HD (ร้อยละ 65 เทียบกับ ร้อยละ 45) ในผู้ป่วย HD พบว่าร้อยละ 21 ต้องกู้ยืม และร้อยละ 12 ต้องมีการขายทรัพย์สินที่มี  ในขณะที่ภาระทางการเงินในผู้ป่วย PD รุนแรงกว่าโดยร้อยละ 52 ต้องกู้ยืม และร้อยละ 26 ต้องมีการขายทรัพย์สินที่มี  ภาระทางการเงินในผู้ที่ไม่มีรายได้เกิดมากกว่าผู้ที่รายได้  ในด้านการดูแลผู้ป่วย พบว่า ประมาณร้อยละ 15 ของผู้ป่วยทั้ง HD และ PD ต้องมีการจัดหาผู้ดูแลผู้ป่วยทุกวัน สรุปผลการวิจัย: ผู้ป่วย PD ที่ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินออม มีปัญหาสถานะการเงิน และหนี้สินครัวเรือน เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีภาระทางการเงินจากความเจ็บป่วยด้วยโรคไตและภาวะแทรกซ้อนมากที่สุด

Article Details

ประเภทบทความ
เภสัชกรรมปฏิบัติ (Pharmaceutical Practice)
ประวัติผู้แต่ง

ธนนรรจ์ รัตนโชติพานิช, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

กลุ่มวิชาเภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, โครงการป้องกันและชะลอโรคไตเรื้อรังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สุรัชดา ชนโสภณ, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

กลุ่มวิชาเภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, โครงการป้องกันและชะลอโรคไตเรื้อรังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วนรัตน์ อนุสรณ์เสงี่ยม, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

กลุ่มวิชาเภสัชกรรมคลินิก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, โครงการป้องกันและชะลอโรคไตเรื้อรังในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เอกสารอ้างอิง

Chuasuwan A, Praditpornsilpa K. editor. Thailand renal replacement therapy year. 2014.

Department of Health, Ministry of Health. Situation of aging people in Thailand, trend, characteristics and problems. [Online]. [cited 2018 Jan 3]. Available from: http://hp.anamai.moph.go.th/soongwai/statics/about/soongwai/topic004.php

Limwattananon S, Kongsawatt S, Pannarunothai S. Screening for poor people using household information. Journal of Health Science 2005; 14(2): 275-286.

Limwattananon S, Tangcharoensathien V, Prakongsai P. Catastrophic and poverty impacts of health payments: results from national household surveys in Thailand. Bull World Health Organ 2007; 85(8): 600-606.

McIntyle D, Thiede M, Dahlgren G, Whitehead M. What are the economic consequences for households of illness and of paying for health care in low- and middle-income country contexts? Soc Sci & Med 2006; 62: 858-65.

National Health Security Office. Manual of Administrative Criterion of National Health Security Fund Office: Chronic renal disease. 2015.

Patchanee K, Apinyanon J. Cetthkrikul N, Lertiendumrong J. Prakongsai P. Budget impact analysis of providing free for hemodialysis among new case of end stage renal disease. International Health Policy Program. 2001

Prakongsai P, Palmer N, Uay-trakul P,Tangcharoensathien V, Mills A. The implication of benefit package design: The impact on poor Thai households of excluding renal replacement therapy. J Int Dev 2009; 21: 291-308.

Riewpaiboon A. Standard Cost Lists for Health Technology Assessment. Research Project Report. 2009.

Srivirojmanee N. Out-of-pocket in colorectal cancer patients: Case study in Maharat Nakhon Ratchasima. Thesis (Khon Kaen University). 2014.

Suchariyakul A, Jongsoowiwatwonge V. Study on family's ability to pay and financially catastrophic illness (FCI) among out-of-pocket in patients: Songkhla province. Research Project Report. 1999.

Suwannasri P, Limwattananon S, Cheawchanwattana A. Economic consequences on households of illnesses requiring hospital referrals: evidence from Atsamat hospital to Roi et hospital. IJPS 2010; 6(2): 52-66.

Tiansaard J, Chaiviboontham S, Phinitkhajorndech N. Perception of symptom burden, financial burden, and quality of life in patients with end stage renal disease undergoing hemodialysis. Rama Nurs J 2017;23 (1): 61-77.

Van Doorsiaer E, O’Donnell O, Rannan-Eliya RP, et al. Catastrophic payments for health care in Asia. Health Econ 2007; 16: 1159-1164.

Xu K, Evans DB, Kawabata K, et al. Household catastrophic health expenditure: a multicountry analysis. Lancet 2003; 362: 111-7.