ความพึงพอใจของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะฟื้นฟูสภาพต่อการบำบัดด้วยการแพทย์ทางเลือกโฮมีโอพาธีย์ ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี

Main Article Content

ฐานิตา นามรัตน์
จตุพร เจริญยศ
ธีราพร สุภาพันธุ์
สรัญญา กุลวงศ์
วัฒนาพร คุ้มบุญ
จารุวรรณ ธนวิรุฬห์

บทคัดย่อ

ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองส่วนใหญ่มักพบความพิการหลงเหลืออยู่ การแพทย์ทางเลือกโฮมีโอพาธีย์เป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้ป่วยสามารถเลือกใช้ร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะและความพึงพอใจของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองต่อการบำบัดด้วยการแพทย์ทางเลือกโฮมีโอพาธีย์ ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี วิธีการดำเนินการวิจัย: เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน ประกอบด้วยเชิงปริมาณโดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจ และเชิงคุณภาพโดยใช้การสัมภาษณ์ ผู้วิจัยเก็บข้อมูลจากแฟ้มประวัติผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะฟื้นฟูสภาพที่รับการบำบัดด้วยการแพทย์ทางเลือกโฮมีโอพาธีย์และสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ป่วยหรือญาติอย่างน้อย 1 ครั้ง โดยสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณาและการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัย: ผู้ป่วยจำนวน18 คน ส่วนใหญ่เป็นชาย (ร้อยละ 61.11) อายุระหว่าง 60-69 ปี (ร้อยละ 33.33) และ 40-49 ปี (ร้อยละ 33.33) มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง (ร้อยละ 88.89) ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ/อุดตัน (ร้อยละ 61.11) ยาโฮมีโอพาธีย์ที่ใช้มากที่สุด คือ Stramonium (ร้อยละ 27.78) และรับการบำบัดด้วยโฮมีโอพาธีย์หลังได้รับการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมองเป็นระยะเวลาน้อยกว่าหรือเท่ากับ 6 เดือน (ร้อยละ 44.44) ความพึงพอใจต่อการให้บริการอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.43 ± 0.20 จากการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ป่วยจำนวน 6  คน และญาติผู้ป่วยจำนวน 5 คน พบว่ารู้จักการแพทย์ทางเลือกโฮมีโอพาธีย์จากการแนะนำของแพทย์ผู้ทำการบำบัดรักษา ณ คลินิกแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ที่ผู้ป่วยไปรับบริการก่อนหน้านี้ เหตุผลที่เข้ารับบริการ คือ อยากลองการรักษาด้วยทางเลือกใหม่ๆ ผู้ป่วยร้อยละ 20 ยังไม่เข้าใจถึงหลักการและวิธีการรักษาของการแพทย์ทางเลือกโฮมีโอพาธีย์อย่างชัดเจน  ด้านความรู้สึกต่อผลการรักษานั้น  ผู้ป่วยทั้งหมดมีความรู้สึกทางด้านจิตใจดีขึ้น กล่าวคือภาวะทางอารมณ์สดชื่นขึ้น ไม่ท้อแท้หรือมีภาวะซึมเศร้า สบตาในระหว่างการสื่อสาร สนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากจากเดิม ซึ่งข้อมูลได้จากการสัมภาษณ์ผู้ป่วยและญาติผู้ดูแลใกล้ชิด โดยผู้ป่วยส่วนหนึ่งรู้สึกดีขึ้นทั้งทางด้านจิตใจและด้านร่างกาย เช่น สามารถเคลื่อนไหวร่างกายและช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้นจากเดิม สามารถต้านแรงที่มาผลักได้ในดีขึ้นในระดับมาก พูดสื่อสารได้เข้าใจ ตอบตรงคำถาม สรุปผลการวิจัย: ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีโรคความดันโลหิตสูง ได้รับการบำบัดด้วยโฮมีโอพาธีย์หลังได้รับการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมองเป็นระยะเวลาน้อยกว่าหรือเท่ากับ 6 เดือนและยาที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับคือ Stramonium ผู้ป่วยมีระดับความพึงพอใจในการบริการทุกด้านอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด มีอาการดีขึ้นอย่างชัดเจนในด้านปัญหาทางภาวะอารมณ์ อาการอ่อนแรงและปัญหาในการนอนหลับ

Article Details

ประเภทบทความ
เภสัชกรรมปฏิบัติ (Pharmaceutical Practice)

เอกสารอ้างอิง

Barnes PM, Griner EP, Fann KM, Nahin RL. Complementary and Alternative Medicine Use Among Adults: United States, 2002. Advance data from vital and health statistics 2004;343:1-20.

Bureau of Non Communicable Diseases. Annual report 2016. Bangkok: Aksorn Graphic and Design Publishing House (Head Office); 2017.

Chirunthorn R, Singpaiboonporn N, Kamkwaew J, Phudpad B, Uuisui P. Assessment of patients' satisfaction with Thai traditional medicine services: a case study of the Department of Thai Traditional Medicine, Community Health Center of Songkhla Hospital, Songkhla province. Songkla Med J 2006;24(6):517-526

Close S. The Genius of homeopathy: Lectures and essays on homeopathic philosophy. B.Jain publishers (P) Ltd, New Delhi, India. 2005.

Dedkhard S. Effects of Rehabilitation Program Using Complementary Therapy in Stroke Patients. J Prapokklao Hosp Clin Med Educat Center 2015;32(2):135-46.

Jaruwanchai P, Jarinto K. Characteristic of patients using alternative medicine in public hospitals. Journal of Graduate Studies Valaya Alongkorn Rajabhat University 2016;9(2): 73-84.

Mathie RT. The research evidence base for homeopathy: a fresh assessment of the literature. Homeopathy 2003;92(2):84-91.

Namsaeng C, Topark-Ngarm. Assessment of Patients' Satisfaction in Thai Traditional Medicine Services at Government Hospitals, Udon Thani Province. KKU Res J (GS) 2016;16(1):77-89.

National Center for Complementary and Integrative Health. The use of complementary and alternative medicine in the United States. [Internet]. 2017 [cited 2018 June 28]. Available from: https://nccih.nih.gov/research/statistics/2007/camsurvey_fs1.htm

National Stroke Association. Post-Stroke Conditions. [Internet]. 2014 [cited 2017 Dec 8]. Available from: http://www.stroke.org/we-can-help/survivors/stroke-recovery/post-stroke-condition

Nilanon Y. Taking care after paralysis. [Internet]. Bangkok: Faculty of Medicine Siriraj Hospital; 2010 [cited 2017 Oct 20]. Available from:http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=707.

Panjinda W, Chucherd P. Achieving a Holistic Approach in Stroke Rehabilitation. Association of private higher education institutions of Thailand 2016;5(2):70-8.

Sherer P, Wongoubpharat P. A study of the use of alternative medicine in Thai people. Report of Thai traditional Medical. Folk medicine and alternative medicine in 2007-2009. Bangkok: Samcharoenpanich; 2010.

Sowanna N. Homeopathy: Science of alternative medicine and application. J Med Health Sci 2017;24(2): 72-82.

Taechakijkosol R. Stress and coping in the rehabilitation stroke patient at Siriraj Hospital. World Health Organization. Stroke, Cerebrovascular accident. [Internet]. 2014 [cited 2017 Dec 8]. Available from:http://www.who.int/topics/cerebrovascular_accident/en/

Yutyingyong W. Alternative medicine in stroke patients case study: Wat Thung Bor Pan Lampang [Dissertation]. Nakhonpathom: College of religious studies; 2008.