ประสิทธิผลของนํ้าสกัดจากกากชาในการลดสภาพความมันบนใบหน้าและหนังศีรษะ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำ: สารแทนนินมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ฝาดสมานและการกำจัดไขมัน ยังคงเหลือค้างอยู่มากในกากชาชง เป็นวัสดุเหลือทิ้งจากการชงเครื่องดื่ม วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของน้ำสกัดจากกากชาในการลดความมัน ลดสิว บนใบหนำ และหนังศีรษะ วิธีการ: รูปแบบการวิจัยเป็นการศึกษาเปรียบเทียบความแตกต่างของกลุ่มแบบก่อนและหลังการ ทดลองประชากรที่ศึกษาเป็นอาสาสมัครชายและหญิง อายุ 18-33 ปี มีสภาพผิวหน้ามันเป็นสิวเสี้ยนและสิวผด อาสาสมัคร ไม่ได้รับยาและการรักษาความมันและสิวบนใบหน้า จำนวน 8 คน โดยอาสาสมัครใช้นํ้าต้มจากกากชาด้วยการเช็ดบนใบหน้า และชโลมหนังศีรษะทุกครั้งหลังทำความสะอาดใบหน้าและหนังศีรษะเป็นประจำ ระยะเวลาทดสอบ 8 สัปดาห์ทำการประเมิน ผลโดยการตรวจวัดปริมาณความมันบนหน้าผาก และหนังศีรษะก่อนการทดสอบในวันที่ 0 และหลังการทดสอบวันที่ 28 และ วันที่ 56 ด้วยเครื่องวัดปริมาณความมัน (Sebumeter) ประเมินประสิทธิภาพการลดสิวจากภาพก่าย และประเมินความพึงพอใจการใช้ของอาสาสมัครโดยใช้วิชวลแอนะล็อกสเกล ผลการศึกษา: ความมันบนใบหน้า และหนังศีรษะของอาสาสมัครที่ ได้รับน้ำสกัดจากกากชาลดลงในวันที่ 28 และ 56 อย่างต่อเนื่อง และมีความแตกต่างอย่างมีนัยล้ากัญทางสถิต (p<0.05) เมื่อ เปรียบเทียบวันที่ 56 หลังการทดสอบกับก่อนการทดสอบ นอกจากนี้ ยังพบแนวโน้มการลดลงของสิวจากการสังเกตจำนวน สิวบนใบหน้าและจากรูปถ่าย ผลการทดสอบความพึงพอใจ อาสาสมัครส่วนใหญ่ประเมินว่า น้ำสกัดจากกากชาสามารถลด ความมันบนใบหน้า และหนังศีรษะได้ แต่อาสาสมัครไม่พึงพอใจในแง่กลิ่น และสีของน้ำต้มกากชา สรุปผล : น้ำสกัดจากกากชาสามารถช่วยลดความมันบนใบหน้า และหนังศีรษะได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในวันที่ 56 ภายหลังการใช้อย่างต่อเนื่อง
Article Details
กรณีที่ใช้บางส่วนจากผลงานของผู้อื่น ผู้นิพนธ์ต้อง ยืนยันว่าได้รับการอนุญาต (permission) ให้ใช้ผลงานบางส่วนจากผู้นิพนธ์ต้นฉบับ (Original author) เรียบร้อยแล้ว และต้องแนบเอกสารหลักฐาน ว่าได้รับการอนุญาต (permission) ประกอบมาด้วย
เอกสารอ้างอิง
Akiyama H, Fujii K, Yamasaki O, et al. Antibacterialaction of several tannins against Staphylococcus aureus. J Antimicrob Chemother 2001; 48(4): 487–491.
Ding Z, Kuhr S, Engelhardt UH. Infl uence of catechins and theafl avins on the astringent taste of black tea brews. Z Lebensm-Unters-Forsch 1992; 195(2): 108-111.
Kolodziej H, Kiderlen AF. Antileishmanial activity and immune modulatory effects of tannins and related compounds on Leishmania parasitized RAW 264.7 cells. Phytochemistry 2005; 66: 2056–2071.
Lakenbrink C, Lapczynski S, Maiwald B, et al. Flavonoids and other polyphenols in consumer brews of tea and other caffeinated beverages. J Agric Food Chem 2000; 48, 2848–2852.
Lesschaeve I and Noble AC. Polyphenols: factors infl uencing their sensory properties and their effects on food and beverage preferences. Am J Clin Nutr 2005; 81(1), 330S-335
S.Lü L, Liu SW, Jiang SB, et al. Tannin inhibits HIV-1 entry by targeting gp41. Acta Pharmacol Sin2004; 25(2): 213-218.
Peterson J, Dwyera J, Bhagwatb S, et al. Majorfl avonoids in dry tea. J Food Compos Anal 2005; 18: 487–501.
Pothitirat W, Chomnawang MT, Supabphol R, Gritsanapan W. Comparison of bioactive compounds content, free radical scavenging and anti-acne inducing bacteria activities of extracts from the mangosteen fruit rind at two stages of maturity. Fitoterapia 2009; 80(7), 442-227.
Reynolds JEF. Martindale: the extra pharmacopoeia. London: The Pharmaceutical Press; 1989.U.S. Department of Agriculture, USDA Database for the Flavonoid Content of Selected Foods, Release 3. 2011 Sep. [cited on 15 April 2513]. Available from: http://www.ars.usda.gov/SP2UserFiles/Place/12354500/Data/Flav/Flav_R03.pdf