การมีส่วนร่วมของผู้นำชุมชนในการป้องกันการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) อธิบายคุณลักษณะส่วนบุคคล ความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตัวของผู้นำชุมชนในการป้องกันการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (2) ศึกษาการมีส่วนร่วมของผู้นำชุมชนในการป้องกันการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะส่วนบุคคล ความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติตัวของผู้นำชุมชนกับการมีส่วนร่วมของผู้นำชุมชนในการป้องกันการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของอำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้นำชุมชนในพื้นที่ศึกษา จำนวน 165 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการศึกษาพบว่า (1) ผู้นำชุมชนส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 67.27 อายุเฉลี่ยประมาณ 50 ปี สถานภาพสมรสคู่ ร้อยละ 91.51 จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า ร้อยละ 55.76 เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบล/สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ร้อยละ 46.06 ดำรงตำแหน่ง ต่ำกว่า 5 ปี ร้อยละ 53.94 มีระดับความรู้ในการป้องกันการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระดับที่สูง ร้อยละ 67.27 มีทัศนคติเห็นด้วยกับการป้องกันการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระดับที่สูง ร้อยละ 64.24 มีการปฏิบัติตัวในการบังคับ ใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระดับที่สูง ร้อยละ 46.67 (2) การมีส่วนร่วมในการป้องกันการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระดับที่สูงทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านการประเมินผล ด้านการตัดสินใจ ด้านการปฏิบัติการ ส่วนด้านการรับผลประโยชน์ อยู่ระดับปานกลาง พบว่า ตำแหน่งในการปฏิบัติงาน ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง มีความสัมพันธ์เชิงบวกระดับต่ำที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.01 (r = 0.205, 0.215 ตามลำดับ) ความรู้ ทัศนคติและการปฏิบัติตัว มีความสัมพันธ์ทางบวกระดับปานกลาง ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.001 (r = 0.365, 0.391, 0.639 ตามลำดับ) ส่วนอายุ ระดับการศึกษา ไม่มีความสัมพันธ์กับการป้องกันการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน จากผลการศึกษาเสนอแนะให้นำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการวางแผน และพัฒนาการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมสอดคล้องกับวิถีชีวิตและบริบทของชุมชน โดยการเพิ่มบทบาทผู้นำชุมชนในการสร้างจิตสำนึก สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน และผลักดันให้เกิดมาตรการชุมชน และการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อป้องกันการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น