การพัฒนารูปแบบการให้การปรึกษากลุ่มการรู้คิด-พฤติกรรม เพื่อเสริมสร้างการเผชิญปัญหาเชิงรุกของวัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อม

บทคัดย่อ

            การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการให้การปรึกษากลุ่มการรู้คิด-พฤติกรรมเพื่อเสริมสร้างการเผชิญปัญหาเชิงรุกของวัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาการเผชิญปัญหาเชิงรุกของวัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อมที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิบ้านพระคุณ สหทัยมูลนิธิ มูลนิธิเพื่อนหญิง สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ และแพธทูเฮลท์ 5 แห่ง จำนวน 136 คน และกลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมการทดลอง จำนวน 24 คน และสุ่มอย่างง่ายเป็นกลุ่มทดลอง 12 คน และกลุ่มควบคุม 12 คน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) วัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อมมีการเผชิญปัญหาเชิงรุกโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2) รูปแบบการให้การปรึกษากลุ่มการรู้คิด-พฤติกรรมเพื่อเสริมสร้างการเผชิญปัญหาเชิงรุกของวัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อมพัฒนาจากการประยุกต์ใช้แนวคิดและเทคนิคของทฤษฎีการให้การปรึกษากลุ่มการรู้คิด-พฤติกรรม ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือขั้นเริ่มต้น ขั้นดำเนินการ ขั้นยุติ และขั้นประเมินผล 3) รูปแบบการให้การปรึกษากลุ่มการรู้คิด-พฤติกรรมที่พัฒนาขึ้น สามารถเสริมสร้างการเผชิญปัญหาเชิงรุกของวัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4) การเผชิญปัญหาเชิงรุกโดยรวมของวัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อมกลุ่มทดลองที่ได้รับการให้การปรึกษากลุ่มการรู้คิด-พฤติกรรม หลังการทดลอง และหลังการติดตามผลเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 5) วัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อมกลุ่มทดลองที่ได้รับการให้การปรึกษากลุ่มการรู้คิด-พฤติกรรม หลังการทดลอง และหลังการติดตามผลมีการเผชิญปัญหาเชิงรุกโดยรวมสูงกว่ากลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับการปรึกษากลุ่มการรู้คิด-พฤติกรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 6) วัยรุ่นตั้งครรภ์ไม่พร้อมกลุ่มทดลองมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการให้การปรึกษากลุ่มการรู้คิด-พฤติกรรม เนื่องจากได้รับความรู้ ประสบการณ์ในการเสริมสร้างการเผชิญปัญหาเชิงรุก ได้แสดงออกและแสดงความคิด ความรู้สึกกับสมาชิกกลุ่ม ทำให้สามารถแก้ปัญหาเชิงรุกได้มากขึ้น

THE DEVELOPMENT OF COGNITIVE-BEHAVIORAL GROUP COUNSELLING MODEL FOR ENHANCING PROACTIVE COPING OF UNINTENDED PREGNANT TEENAGER

Abstract

            The purpose of this research was to develop the cognitive-behavioral group counseling model for enhancing proactive coping of unintended pregnant teenager. The subjects of proactive coping study consisted of 136 unintended pregnant teenagers of 5  associations: Bann phra khun, Sahathai, Friends of Women, The Royal Patronage of HRH Princess Soamsawali (APSW) and Path foundation. The sample of the study of the proactive coping enhancement included 24 unintended pregnant teenagers. They were randomly assigned into an experimental group and a control group. Each group consisted of 12 unintended pregnant teenagers. The research was mixed methods research. The research results were as follows: 1) The total mean score and each dimension score of proactive coping were high. 2) The cognitive-behavioral group counseling model for enhancing proactive coping of unintended pregnant teenagers was developed by applying  concepts and techniques of the cognitive-behavioral group counseling theory, included 4 stages : the initial stage, the working stage, the final stage, and the evaluation stage. 3)The developed cognitive behavioral group counseling model was effective in significantly enhancing the proactive coping of the unintended pregnant teenagers attended the model at .01 level. 4) The proactive coping of unintended pregnant teenagers of the experimental group after participating in the cognitive-behavioral group counseling model and after the follow up were significantly higher than before participating in the cognitive-behavioral group counseling model at .01 level. 5) The proactive coping of unintended pregnant teenagers of the experimental group after the experiment and after the follow up were higher than that of the control group at .01 level. 6) The unintended pregnant teenagers of the experiment group was satisfied with the group counseling model. They gained more knowledge and experiences in enhancing proactive coping. They had a chance to express and share their feelings and ideas during the discussion. Also, they could be able in applying proactive coping.