ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เขตสุขภาพที่ 8 กระทรวงสาธารณสุข
คำสำคัญ:
พฤติกรรมสุขภาพ, กลุ่มเสี่ยง, โรคไม่ติดต่อเรื้อรังบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมสุขภาพและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เขตสุขภาพที่ 8 กระทวงสาธารณสุข ตัวอย่าง คือ กลุ่มเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ที่มารับบริการในเขตสุขภาพที่ 8 กระทวงสาธารณสุข อายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 1,400 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์เกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพและปัจจัยที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้ดัชนีความตรงเชิงเนื้อหา .67 - 1.00 และค่าสัมประสิทธ์แอลฟาของครอนบาคเท่ากับ .89 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพรรณนาและสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงในเขตสุขภาพที่ 8 กระทรวงสาธารณสุข มีพฤติกรรมสุขภาพเกี่ยวกับกิจกรรมทางกายและออกกำลังกายไม่เหมาะสม และมีภาวะเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า กิจกรรมทางกายและออกกำลังกายมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำกับความดันโลหิต (r = .086, p < .01) ภาวะเครียดมีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำกับน้ำตาลในเลือด (r = .096, p < .01) การสูบบุหรี่มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำกับดัชนีมวลกายกับรอบเอว (r = .121, p < .01; r = .203, p < .01) การดื่มแอลกอฮอล์มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำกับรอบเอว (r = .109, p < .01) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเน้นการดำเนินงานเชิงระบบในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดภาวะเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Bowman, T. S., Gaziano,J.M., Buring, J. E., & Sesso, H. D. (2007). A prospective study of cigarette smoking and risk of incident hypertension in women. Journal of the American College of Cardiology, 50(21), 2085-2092.
Chanhom, C., & Numkham, L. (2018). Factor affecting physical activity among people with risk of hypertension in Muang district, Lampang province. Journal of Science and Technology, 28(3), 546-560.
Ekplakorn, W., et al. (2014). Thailand public health surveys by physical examination 5th, Health Systems Research Institute 2014. Nonthaburi.
Institute of Medical Research & Technology Assessment. (2014).Literature review: The current situation and care model of non-communicable diseases. Department of Medical Services. Nonthaburi.
Jaruwat, L. (2009). Risk factors and factors related to risk behaviors regarding to hypertension and diabetes mellitus of people in Kamphaeng Phet province. Journal of Disease Control, 35(2), 79-88.
Kittimankong, P., Walaisathian, T., Aunprom-me, S., Seingnoo, N., Kruemphimai, N., & Aunprom-me, S. (2017). Health status and health behaviors among working age persons residing in Health Region 9 (Nakhon Ratchasima, Chaiyaphum, Buriram & Surin). Regional Health Promotion Center 9 Journal: The Journal for Health Promotion and Environmental Health, 11(26), 192-205.
Numpool, J. (2020). Application of behavior change theory in adult metabolic syndrome patients. Journal of Nursing, Thai Red Cross Society, 13(2), 15-28.
Panket, P. (2015). The developmental clinical NCD quality (diabetes and hypertension) in Tambon Health Promotion hospital. Division of Non-Communicable Disease. Department of Disease Control. Nonthaburi.
Strategy and Planning Division. (2015). Public health statistics 2014. Bangkok.
Thai Health Promotion Foundation. (2019). Complete operation progress report between March 1, 2017 to August 31, 2018, a project to develop surveillance systems and NCDs information for monitoring and evaluation.
Watcharasin, S. (2017). Collaborative NCDs nurse in community (diabetes and hypertension). Division of Non-Communicable Disease. Department of Disease Control. Nonthaburi.
Watcharathanakij, S. Moolasarn, S., Phanritdam, S., & Noobome, M. (2012). Physical exercise behavior of Ubon Ratchathani university undergraduate students. Isan Journal of Pharmaceutical Sciences, 8(3), 35-47.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ผลงานที่ได้ตีพิมพ์แล้วจะเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลตำรวจ
