ปัจจัยทำนายความร่วมมือในการรับประทานยาของผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หลังได้รับการขยายหลอดเลือดโคโรนารี่

Abstract

บทคัดย่อ

การวิจัยแบบหาความสัมพันธ์เชิงทำนาย เพื่อศึกษาอำนาจทำนายของปัจจัยทำนาย ได้แก่ การรับรู้อุปสรรค การรับรู้โอกาสเสี่ยง การรับรู้ความรุนแรง การรับรู้ประโยชน์ ภาวะซึมเศร้า ภาวะโรคร่วม การรับรู้สมรรถนะแห่งตน และการสนับสนุนทางสังคม กับความร่วมมือในการรับประทานยาของผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหลังได้รับการขยายหลอดเลือดโคโรนารี่ ตัวอย่างคือผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหลังได้รับการขยายหลอดเลือดโคโรนารี่ จำนวน 154 คน เลือกแบบหลายขั้นตอน แผนกผู้ป่วยนอกโรคหัวใจและหลอดเลือด สถาบันโรคทรวงอก โรงพยาบาลตำรวจ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล ความร่วมมือในการรับประทานยา การรับรู้โอกาสเสี่ยง การรับรู้ความรุนแรง การรับรู้ประโยชน์ การรับรู้อุปสรรค ภาวะซึมเศร้า การสนับสนุนทางสังคม และการรับรู้สมรรถนะแห่งตนในการรับประทานยา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบเชิงชั้น

ผลการวิจัยพบว่า ความร่วมมือในการรับประทานยาของผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหลังได้รับการขยายหลอดเลือดโคโรนารี่โดยรวมอยู่ในระดับสูง ( = 31.50, SD = 4.04) ผลการวิเคราะห์อำนาจของปัจจัยทำนาย สามารถร่วมกันทำนายความร่วมมือในการรับประทานยาของผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหลังได้รับการขยายหลอดเลือดโคโรนารี่ร้อยละ 21.0 (R²=0.210, F= 4.821, p=.000) โดยการรับรู้อุปสรรคและการรับรู้ประโยชน์เป็นตัวแปรที่สามารถทำนายความร่วมมือในการรับประทานยาในผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหลังได้รับการขยายหลอดเลือดโคโรนารี่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (β=-.232, t=-2.567 และ β=.264, t=2.604, p < .05 ตามลำดับ)

Predicting Factors of Medication Adherence among Myocardial Infarction Patients after Underwent Percutaneous Coronary Intervention

Abstract 

The purposes of this predictive correlational study were to examine the medication adherence and to predict the relationships between perceived susceptibility, perceived severity, perceived benefits, perceived barriers, depression, comorbidity, self-efficacy, social support, and medication adherence. One hundred and fifty-four out-patients with myocardial infarction after underwent percutaneous coronary intervention (PCI) aged 18-59 years old, who were recruited in the heart clinic at the Central Chest Institute, the Police General Hospital, Faculty of Medicine Vajira Hospital and Phramongkutklao Hospital by a multistage random sampling. Questionnaires were composed of demographic information, medication adherence, perceived susceptibility, perceived severity, perceived benefits, perceived barriers, patient health questionnaire 9, social support, and medication adherence self-efficacy scale. Descriptive statistics (e.g., percent, mean, and standard deviation), and Hierarchical multiple regression were used to analyze data.
The major findings that the mean score of medication adherence in myocardial infarction after underwent PCI patients was at a high level ( = 31.50, SD = 4.04) and the result of hierarchical multiple regression analysis showed that 21.0 (R² = .210, p < .05) percent of the variance in medication adherence for myocardial infarction after underwent PCI patients could be explained by perceived susceptibility, perceived severity, perceived benefits, perceived barriers, depression, comorbidity, self-efficacy, social support. Both of perceived barriers and perceived benefits were significant predictors of medication adherence among myocardial infarction after underwent PCI patients (β=-.232, t=-2.567 and β=.264, t=2.604, p < .05, respectively).