ปัจจัยทำนายสมรรถนะพยาบาลไตเทียม
Keywords:
สมรรถนะพยาบาลไตเทียม, การเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง, การได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน, พยาบาลไตเทียม, Competency, self-directed learning, work empowerment, hemodialysis nurseAbstract
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบหาความสัมพันธ์เชิงทำนาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสมรรถนะพยาบาลไตเทียม 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ ระดับการศึกษา ประสบการณ์การปฏิบัติงานด้านไตเทียม การอบรมเพิ่มเติม การเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง การได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงานกับสมรรถนะพยาบาลไตเทียมและ 3) ศึกษาตัวแปรพยากรณ์สมรรถนะพยาบาลไตเทียม ตัวอย่าง คือ พยาบาลไตเทียมทั่วประเทศจำนวน 315 คน ที่ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบ เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามการเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง แบบสอบถามการได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน และแบบสอบถามสมรรถนะพยาบาลไตเทียม แบบสอบถามทั้งหมดผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหา และวิเคราะห์ค่าความเที่ยงโดยหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคได้เท่ากับ.92, .95 และ .96 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการคำนวณหาร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ค่าความสัมพันธ์อีต้า และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบเพิ่มตัวแปรเป็นขั้นตอน
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1.สมรรถนะพยาบาลไตเทียมมีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับสูง (Mean = 3.92, SD = .41)
2.ระดับการศึกษา ประสบการณ์การปฏิบัติงานด้านไตเทียม การเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง และการได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน มีความสัมพันธ์ทางบวกกับสมรรถนะพยาบาลไตเทียมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .22, .68 และ .45 ตามลำดับ) ส่วนระดับการศึกษา การอบรมเพิ่มเติม ไม่มีความสัมพันธ์กับสมรรถนะพยาบาลไตเทียม
3.ตัวแปรที่ร่วมกันทำนายสมรรถนะพยาบาลไตเทียมได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 คือ การเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง และการได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน และประสบการณ์การปฏิบัติงานด้านไตเทียม โดยร่วมกันพยากรณ์ได้ร้อยละ 51.60 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ได้
สมการในรูปคะแนนมาตรฐาน ดังนี้
สมรรถนะพยาบาลไตเทียม = .56(การเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง) + .20(การได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน) + .15 (ประสบการณ์การปฏิบัติงาน)
คำสำคัญ: สมรรถนะพยาบาลไตเทียม; การเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง; การได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน; พยาบาลไตเทียม
Predicting Factors of Competency of Hemodialysis Nurse
Abstract
The purposes of this study were 1) to study competency of hemodialysis nurses; 2) to analyze relationships between personal factors: education level, work experience in hemodialysis, in-service training, self-directed learning, work empowerment, and competency of hemodialysis nurse, and 3) to examine the factor predicting competency of hemodialysis nurses. The research subjects, randomly selected through systematic random sampling technique, consisted of 315 hemodialysis nurses. The instrument for this study that included a demographic data form, a self-directed learning questionnaire, a work empowerment questionnaire, and a competency of hemodialysis nurses questionnaire, which has been tested for content validity and reliability with Cronbach’s alpha coefficient of .92, .95 and .96 respectively. Data were analyzed by using mean, standard deviation, Pearson product moment correlation, Eta correlation and stepwise multiple regression analysis.
Major results of this study were as follows:
1. Mean score of competency of hemodialysis nurses was at high level. (Mean = 3.92, S.D. = .41)
2. There was positively significant relationships between education level, work experience, self-directed learning, work empowerment and competency of hemodialysis nurses, at .05 level (r =.216, .679 and .469 respectively)
3. Factor significantly predicted competency of hemodialysis nurses were self-directed learning, work empowerment and work experience, at .05 level. These predictors were accounted for 51.6 percent of variance. The standardized equation was as follow:
Competency of hemodialysis nurses = .557(self-directed learning) + .196 (work empowerment) + .152 (work experience)
Key words: Competency, self-directed learning; work empowerment; hemodialysis nurse
Downloads
Downloads
How to Cite
Issue
Section
License
ผลงานที่ได้ตีพิมพ์แล้วจะเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลตำรวจ