การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ เพื่อการให้บริการทางคลินิกแก่ประชาชนไทย

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพเพื่อการให้ บริการทางคลินิกแก่ประชาชนไทยในภาครัฐและเอกชน และ 2) เพื่อศึกษาการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพเพื่อการให้บริการทางคลินิกแก่ประชาชนไทยในภาครัฐและเอกชน ตัวอย่างเป็นแพทย์ พยาบาล เภสัชกร และนักเทคนิคการแพทย์ ของโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน ที่ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย จำนวน 176 คน และผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้บริหารของโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน จำนวน 6 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลสุขภาพเพื่อการให้บริการทางคลินิก มีค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ 1 และค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคเท่ากับ .97 และแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้ความถี่และร้อยละ ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยสรุปได้เป็น 2 ประเด็นที่สำคัญ ดังนี้

1. 1. การแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพเพื่อการให้บริการทางคลินิกแก่ประชาชนไทยในภาครัฐและเอกชน พบว่าข้อมูลพื้นฐานขั้นต่ำที่สำคัญ ได้แก่ ประวัติการแพ้ยา ประวัติการรักษาของแพทย์ การวินิจฉัยโรค ผลการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ และรูปแบบการให้ความยินยอมเป็นแบบ Opt-in ส่วนการบ่งชี้ตัวตนในการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของผู้รับบริการใช้เลขประจำตัวประชาชน ผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของผู้รับบริการที่ทั้งอ่านและลงข้อมูลได้คือ แพทย์ และรูปแบบกำกับดูแลในการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพเป็นแบบรวมศูนย์ กฎหมายที่เกี่ยวข้องที่มีอยู่เพียงพอ ไม่ต้องบัญญัติใหม่ ให้ทบทวนและปรับแก้ให้ทันสมัย
2. การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพเพื่อการให้บริการทางคลินิกแก่ประชาชนไทยในภาครัฐและเอกชน พบว่า มี 2 ระดับ ได้แก่ 1) ระดับนโยบายเป็นนโยบายเรื่องระดับชั้นของความลับและการยินยอมให้เปิดเผยข้อมูล และ 2) ระดับปฏิบัติการแบ่งเป็นด้านบุคลากรทางการแพทย์และด้านเทคนิค การบริหารจัดการเรื่องการรักษาความลับหรือความปลอดภัยยังไม่ดีพอ อีกทั้งการเชื่อมต่อข้อมูลยังจำกัด จึงต้องมีการพัฒนาต่อไป