Effects of Promoting Mother’s Self-management Breastfeeding Program on Breastfeeding Self-management Skills and Breastfeeding Intention among Adolescent Mothers
Keywords:
Self-management, Breastfeeding, Skills, Intention, Adolescent mothersAbstract
This quasi-experimental research aimed to examine the effects of promoting mother’s self-management breastfeeding program on breastfeeding self-management skills and breastfeeding intention among adolescent mothers. The samples were 40 pregnant adolescents attending an antenatal clinic and delivering at Phrapokklao Hospital, Chanthaburi Province, and were equally divided into an experimental group (n = 20) and a control group (n = 20). The research instruments included the promoting mother’s self-management breastfeeding program, a breastfeeding handbook: self-management, a personal information questionnaire, a breastfeeding self-management skill assessment form with a reliability of .85, and a breastfeeding intention assessment form. The implementation and data collection were conducted from February to October 2023. Data were analyzed using frequency, percentage, mean, standard deviation, independent t-test, and two-way repeated measures ANOVA with multiple comparisons by the Bonferroni method.
The research results revealed that 1) at the 3-month and the 6-month post-test periods, the experimental group had statistically significantly higher mean scores of breastfeeding self-management skills and breastfeeding intention than the control group (p < .001); and 2) at the 3-month and the 6-month post-test periods, the experimental group had statistically significantly higher mean scores of breastfeeding self-management skills and breastfeeding intention than the pre-test period (p < .05).
This research suggests that healthcare providers should apply this promoting mother’s self-management breastfeeding program to enhance breastfeeding for adolescent mothers according to the family contexts. This will help adolescent mothers maintain their breastfeeding.
References
กรมอนามัย. (2558). อัตราเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในไทยยังต่ำ สธ.หนุน “Working Mom” เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวครบ 6 เดือน. สืบค้นจาก https://www.hfocus.org/content/2015/09/10785
กรมอนามัย. (2561). “น้ำนมแม่” ประโยชน์แท้จากธรรมชาติ. สืบค้นจาก https://multimedia.anamai.moph.go.th/help-knowledgs/benefits-of-breastfeeding
จารุวรรณ์ ท่าม่วง, อรวรรณ ดวงใจ, รุ่งนภา เขียวชะอ่ำ, และนวพร มามาก. (2566ก). การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมการจัดการตนเองในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อทักษะและความตั้งใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของมารดาวัยรุ่น. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 34(1), 85–99.
จารุวรรณ์ ท่าม่วง, อรวรรณ ดวงใจ, รุ่งนภา เขียวชะอ่ำ, และนวพร มามาก. (2566ข). การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในมารดาวัยรุ่น ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี, 17(3), 14–26.
เจนีวา ทะวา. (2561). ปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้มารดาตั้งครรภ์วัยรุ่นประสบผลสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ของมารดาวัยรุ่นที่มารับบริการ แผนกห้องคลอดโรงพยาบาลสิงหนคร จังหวัดสงขลา. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 1(2), 32–41.
ชุดาณัฏฐ์ ขุนเพชร, และศศิกานต์ กาละ. (2562). ประสบการณ์ความตั้งใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของมารดาวัยรุ่นหลังคลอด. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 11(2), 1–11.
ทิพาวรรณ สมจิตร, นวภรณ์ ดอกชะบา, มัทนา พรมรักษา, และทัศนีวรรณ กรุงแสนเมือง. (2564). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กับความตั้งใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือนแรกของมารดาหลังคลอด. วารสารวิจัยและนวัตกรรมทางสุขภาพ, 4(2), 115–124.
นิอร ละอองแก้ว, สุนันทา ยังวนิชเศรษฐ, และศศิกานต์ กาละ. (2557). การรับรู้และปัจจัยส่งเสริมความสําเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ของมารดาหลังคลอด. ใน รายงานสืบเนื่องจากการประชุม (แบบบรรยาย) การประชุมวิชาการระดับชาติ ราชภัฏสุราษฎร์ธานีวิจัย ครั้งที่ 10 “งานวิจัยและงานสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืน” (น. 31–38). สุราษฎร์ธานี: เค.ที.กราฟฟิค การพิมพ์ และบรรจุภัณฑ์.
ปัณณทัต บนขุนทด, วิภาดา กาญจนสิทธิ์, ชนาธิป สันติวงศ์, สุพรรษา จิตรสม, พิมพ์รดา ธรรมีภักดี, ศุกลรัตน์ ชาญวิรัตน์, และนภารินทร์ นวลไธสง. (2563). ความรู้และทัศนคติของมารดาหลังคลอดปกติที่ต้องการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียวนาน 6 เดือน หอผู้ป่วยหลังคลอด โรงพยาบาลบุรีรัมย์. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานี, 28(3), 275–283.
ปิยะภรณ์ ประสิทธิ์วัฒนเสรี, กรรณิการ์ กันธะรักษา, และนาฏยา งามพสุธาดล. (2564). ผลของโปรแกรมการเรียนรู้ผ่านเว็บต่อความรู้ในการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาและอัตราการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียวในมารดาวัยรุ่น. พยาบาลสาร, 48(3), 342–353.
ภาวิน พัวพรพงษ์, เกษม เรืองรองมรกต, วิเชียร มโนเลิศเทวัญ, สุขวดี เกษสุวรรณ, และศิณัฐชานันท์ วงษ์อินทร์. (2557). การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นกับอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว. วารสารจดหมายเหตุทางแพทย์ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, 97(9), 893–898.
ลำพงษ์ ศรีวงค์ชัย, จันทร์เพ็ญ ชินคำ, อัจฉรา วริลุน, และสุรีพร ศรีโพธิ์อุ่น. (2564). การพัฒนาโปรแกรมการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในมารดาหลังคลอดบุตรคนแรกและครอบครัว. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม, 18(3), 99–112.
ศศิมา ศรีเพ็ชร, และศศิกานต์ กาละ. (2565). ผลของโปรแกรมการพยาบาลโดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผนต่อความตั้งใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของมารดาวัยรุ่นหลังคลอด. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้, 9(2), 26–39.
สุสัณหา ยิ้มแย้ม, สุนิสา ปัทมาภรณ์พงศ์, และอัมพิกา สุวรรณบุตร. (2564). การพัฒนารูปแบบการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สำหรับแม่วัยรุ่น. พยาบาลสาร, 48(2), 259–272.
อัญชนา ปันอินแปง, วรรณา พาหุวัฒนกร, และปิยะนันท์ ลิมเรืองรอง. (2564). ผลของโปรแกรมฝึกทักษะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อประสิทธิภาพ การรับรู้สมรรถนะของตนเอง และอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวของมารดาวัยรุ่นที่มีบุตรคนแรก. วารสารพยาบาลศาสตร์, 39(4), 27–40.
อารีรัตน์ วิเชียรประภา, ขนิษฐา เมฆกมล, กรรณิการ์ แซ่ตั๊ง, เกษณี พรหมอินทร์, และสมลักษณ์ ศรีวิรัญ. (2561). การพัฒนารูปแบบการจัดการตนเองของมารดาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน: กรณีศึกษามารดาหลังคลอด ตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 29(1), 170–184.
Cohen, J. (1992). A power primer. Psychological Bulletin, 112(1), 155–159. doi:10.1037/0033-2909.112.1.155
Creer, L. T. (2000). Self-management of chronic illness. In M. Boekaerts, P. R. Pintrich, & M. Zeidner (Eds.). Handbook of self-regulation (pp. 601–629). San Diego, CA: Academic Press.
Glasgow, R. E., Davis, C. L., Funnell, M. M., & Beck, A. (2003). Implementing practical interventions to support chronic illness self-management. The Joint Commission Journal on Quality and Patient Safety, 29(11), 563–574. doi:10.1016/s1549-3741(03)29067-5
Krathwohl, D. R., Bloom, B. S., & Masia, B. B. (1964). Taxonomy of educational objectives: The classification of educational goals, Hand book II: Affective domain. New York: David Mckay.
Leclair, E., Robert, N., Sprague, A. E., & Fleming, N. (2015). Factors associated with breastfeeding initiation in adolescent pregnancies: A cohort study. Journal of Pediatric and Adolescent Gynecology, 28(6), 516–521. doi:10.1016/j.jpag.2015.03.007
National Statistical Office, & United Nations Children’s Fund. (2016). Thailand MICS: Multiple Indicator Cluster Survey 2015–2016, final report. Bangkok: Author.
National Statistical Office, & United Nations Children’s Fund. (2020). Thailand MICS: Monitoring the situation of children and women, final report. Bangkok: Author.
World Health Organization. (2021). Adolescent birth rate: Data by country. Retrieved from https://apps.who.int/gho/data/view.main.1630AG?lang=en
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
Categories
License
Copyright (c) 2024 Journal of Phrapokklao Nursing College, Chanthaburi
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน