Factors Affecting Herbal Medicine Use Behavior to Relieve Musculoskeletal Pain of Personnel in a Hospital
Keywords:
Herbal medicine use behavior, Musculoskeletal pain, Personnel in hospitalAbstract
This predictive correlational research aimed to examine herbal medicine use behavior to relieve musculoskeletal pain and factors affecting herbal medicine use behavior to relieve musculoskeletal pain of personnel. The samples were 330 personnel in Sawanpracharak Hospital, Nakhon Sawan Province. The research instruments included a demographic questionnaire, a knowledge on herbal medicine use to relieve musculoskeletal pain test with a reliability of .90, an attitude towards herbal medicine use to relieve musculoskeletal pain questionnaire with a reliability of .83, a perceived benefit of herbal medicine use to relieve musculoskeletal pain questionnaire with a reliability of .78, an enabling factor of herbal medicine use to relieve musculoskeletal pain questionnaire (2 dimensions) with the reliabilities of .83 and .81, a reinforcing factor of herbal medicine use to relieve musculoskeletal pain questionnaire (2 parts) with the reliabilities of .83 and .87, and a herbal medicine use behavior to relieve musculoskeletal pain questionnaire with a reliability of .88. Data were collected from January to March 2023. Statistics used for data analysis included frequency, percentage, mean, standard deviation, and stepwise multiple regression analysis.
The research results revealed that the mean score of herbal medicine use behavior to relieve musculoskeletal pain of personnel was at a low level (M = 10.96, SD = 1.10). Elementary education level, Thai traditional medicine occupation, employment as a government employee, employment as a Ministry of Public Health employee, employment as a temporary employee, no underlying disease, and perceived benefit of herbal medicine use could statistically significantly predict the herbal medicine use behavior to relieve musculoskeletal pain of personnel at 13.60% (adj. R2 = .136, p < .05). The most predictive factor was Thai traditional medicine occupation (Beta = .252, p < .001).
This research suggests that the agency should campaign for personnel to use herbal medicines to alleviate musculoskeletal pain, and there should be a policy to prescribe herbal medicines as a first-line drug for patients with musculoskeletal pain. This will stimulate the use of herbal medicines and reduce the cost of importing modern medicines.
References
กองควบคุมยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา. (2560). มูลค่าการผลิตและการสั่งนำยาเข้ามาในราชอาณาจักร สำหรับยาแผนปัจจุบัน ตั้งแต่ปี 2556–2558. สืบค้นจาก http://www.pp1.fda.moph.go.th/drug/zone_search/file/sea001_001.asp
กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2563). จำนวนหน่วยงานบริการสุขภาพ ในสังกัด สป.สธ. ปีงบประมาณ 2563. สืบค้นจาก https://phdb.moph.go.th/main/index/downloadlist/57/0
กัญญาลักษณ์ สีสองสม, และณรงค์ ใจเที่ยง. (2563). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ยาสมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเองของบุคลากร โรงพยาบาลแม่จัน จังหวัดเชียงราย. วารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข, 6(เพิ่มเติม), 155–170.
จุลจิรา ธีรชิตกุล, ขนิษฐา นาคะ, และปิยะภรณ์ บุญพัฒน์. (2555). การจัดการอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อของผู้สูงอายุที่มีอาชีพกรีดยางพารา. วารสารสภาการพยาบาล, 27(2), 134–147.
ชีวรัตน์ ปราสาร. (2564). ความชุกและปัจจัยทางการยศาสตร์ที่สัมพันธ์กับอาการผิดปกติระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างกระดูกที่เกิดขึ้นเนื่องจากการทำงานในกลุ่มผู้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล. วารสารสาธารณสุขศาสตร์, 51(2), 149–158.
ฌาน ปัทมะ พลยง, มริสสา กองสมบัติสุข, วรรณภา แสงศรีจันทร์, และขนิษฐา เสมานุสรณ์. (2560). ความชุกและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความผิดปกติของระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อในกลุ่มบุคลากรของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จังหวัดระยอง. วารสารควบคุมโรค, 43(3), 280–292.
ทัศน์พงษ์ ตันติปัญจพร, เยาวลักษณ์ อยู่นิ่ม, ยุวดี ทองมี, และอรวรรณ กีรติสิโรจน์. (2562). ผลของภาระงานคอมพิวเตอร์ต่ออาการผิดปกติของรยางค์ส่วนบน คอ และหลัง จากการทำงานในกลุ่มพนักงานสำนักงาน. ศรีนครินทร์เวชสาร, 34(1), 60–67.
นิรันดร์ ยกภาษี. (2557). การปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการทำงานของบุคลากรในโรงพยาบาลชุมชนขนาด 90 เตียง แห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ปรารถนา เอนกปัญญากุล, สุภินดา ศิริลักษณ์, และภัทรวีร์ ดามี. (2563). พฤติกรรมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพของประชาชนที่มารับบริการในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร. วารสารวิชาการ ปขมท., 9(2), 76–90.
ปรีชา เนตรพุกกณะ, และวาสินี วงศ์อินทร์. (2563). พฤติกรรมการใช้ยาสมุนไพรในโครงการกระเป๋ายาสมุนไพรของประชาชน อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 5(1), 47–59.
ปุญญพัฒน์ ไชยเมล์, ตั้ม บุญรอด, และวิชชาดา สิมลา. (2555). ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเบื้องต้น. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา, 7(2), 25–37.
โรสนานี เหมตระกูลวงศ์, กิตติพร เนาว์สุวรรณ, และจีราพัชร์ พลอยนิลเพชร. (2563). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการใช้ยาสมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเองของประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลา ตำบลสะเตง อำเภอเมือง จังหวัดยะลา. ใน เอกสารสืบเนื่องจากการประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 11 (น. 1979–1986). สงขลา: มหาวิทยาลัยหาดใหญ่. สืบค้นจาก https://www.hu.ac.th/conference/proceedings2020/
วัชราภรณ์ กุลวงศ์, สังคม ศุภรัตนกุล, และพัชราภรณ์ ไชยศรี. (2561). ความรู้และพฤติกรรมการใช้ยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ของผู้สูงอายุในอำเภอทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานี, 26(2), 99–107.
วิริญญา เมืองช้าง. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพตนเองของประชาชนในอำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร. (2564). การใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบัน. สืบค้นจาก http://dmsic.moph.go.th
สมเกียรติยศ วรเดช, ปุญญพัฒน์ ไชยเมล์, เรณู สะแหละ, และยุวดี กองมี. (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการใช้สมุนไพรในการดูแลตนเองของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 24(1), 50–59.
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. (2563). ความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข. สืบค้นจาก https://infocenter.nationalhealth.or.th
สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม. (2561). รายงานสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ปี 2557. สืบค้นจาก http://envocc.ddc.moph.go.th
สิวลี รัตนปัญญา, สามารถ ใจเตี้ย, สุรศักดิ์ นุ่มมีศรี, กานต์ชัญญา แก้วแดง, และจิติมา กตัญญู. (2559). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการบาดเจ็บของระบบโครงร่างกระดูกและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงานของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่. วารสารความปลอดภัยและสุขภาพ, 9(34), 20–29.
อภิญญา จุติตระกูลชัย, และวิลาสินี หงสนันทน์. (2563). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการใช้ยาขมิ้นชันของประชาชนในจังหวัดสุโขทัย. วารสารสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 2(2), 26–36.
อรรถพล แก้วนวล. (2560). การออกแบบและพัฒนาเคียวตัดทางใบปาล์มตามหลักการยศาสตร์ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
อรรถพล แก้วนวล, บรรพต โลหะพูนตระกูล, และกลางเดือน โพชนา. (2560). ความชุกของความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อและกระดูกโครงร่างที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงานในอาชีพต่างๆ. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา, 12(2), 53–64.
Green, L. W., & Kreuter, M. W. (2005). Health program planning: An educational and ecological approach (4th ed.). New York: McGraw-Hill.
Weiers, R. M. (2005). Introduction to business statistics (5th ed.). Pacific Grove, CA: Brooks/Cole.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
Categories
License
Copyright (c) 2024 Journal of Phrapokklao Nursing College, Chanthaburi
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน