อุบัติการณ์ของการหกล้ม และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการหกล้ม ในผู้สูงอายุที่อาศัยในชุมชน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
คำสำคัญ:
การหกล้ม, ปัจจัยเสี่ยง, ผู้สูงอายุบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง เพื่อศึกษาอุบัติการณ์ของการหกล้ม ปัจจัยเสี่ยงต่อการหกล้ม และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการหกล้มในผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในชุมชนบางใบไม้ ตำบลบางใบไม้ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 206 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามอุบัติการณ์และปัจจัยเสี่ยงต่อการหกล้มที่มีค่าความเชื่อมั่น .88 เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม 2559 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ และ multiple logistic regression
ผลการวิจัยพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างมีประสบการณ์การหกล้มในรอบปีที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 26.20 2) ปัจจัยเสี่ยงต่อการหกล้มของกลุ่มตัวอย่างที่หกล้ม พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 75.90 มีอายุอยู่ในช่วง 70-79 ปี คิดเป็นร้อยละ 48.10 สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้เอง ไม่ต้องมีผู้ดูแล/ผู้ช่วยเหลือ คิดเป็นร้อยละ 85.20 มีความสามารถในการทรงตัวขณะเคลื่อนไหวในระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 53.70 มีประวัติการได้รับยาหลายชนิด คิดเป็นร้อยละ 63 ได้รับยารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด คิดเป็นร้อยละ 48.10 ได้รับยารักษาโรคเบาหวาน คิดเป็นร้อยละ 81.50 ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คิดเป็นร้อยละ 3.70 และมีการแต่งกายที่ไม่เหมาะสม คิดเป็นร้อยละ 22.20 และ 3) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการหกล้มในกลุ่มตัวอย่าง ประกอบด้วยอายุ 80 ปีขึ้นไป (OR = .180, 95% CI = .050-.630, p < .01) ความสามารถในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน (OR = 4.350, 95% CI = 1.030-18.250, p < .05) ความสามารถในการทรงตัวขณะเคลื่อนไหวต่ำ (OR = 5.760, 95% CI = 2.580-12.850, p < .01) การได้รับยารักษาโรคเบาหวาน (OR = 3.880, 95% CI = 1.070-14.070, p < .05) และการแต่งกายที่ไม่เหมาะสม (OR = 8.720, 95% CI = 2.530-30.040, p < .01)
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่าบุคลากรทางสุขภาพควรทำการประเมินและคัดกรองปัจจัยเสี่ยงต่อการหกล้มของผู้สูงอายุในชุมชน โดยใช้หลักการประเมินปัจจัยเสี่ยงต่อการหกล้มแบบองค์รวม รวมทั้งควรมีแผนพัฒนาการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความสามารถในการทรงตัวขณะเคลื่อนไหวในระดับต่ำถึงปานกลาง
เอกสารอ้างอิง
นงนุช วรไธสง. (2551). การศึกษาปัจจัยเสี่ยงต่อการหกล้มของผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงที่อาศัยอยู่ในชุมชน จังหวัดขอนแก่น (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
เปรมกมล ขวนขวาย. (2550). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการหกล้มของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชน (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
พุทธิพงษ์ พลคำฮัก, ธนิชา อินสอน, นวพล ประสิทธิเมตต์, และพีระศักดิ์ มโนทา. (2557). การศึกษานำร่องการทำนายความเสี่ยงต่อการล้มในผู้สูงอายุไทยโดยใช้การทดสอบการลุกยืน 5 ครั้ง. ศรีนครินทร์เวชสาร, 29(3), 237-242.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. (2558). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2557. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
ละออม สร้อยแสง, จริยาวัตร คมพยัคฆ์, และกนกพร นทีธนสมบัติ. (2557). การศึกษาแนวทางการป้องกันการล้มในผู้สูงอายุชุมชนมิตรภาพพัฒนา. วารสารพยาบาลทหารบก, 15(1), 122-129.
ลัดดา เถียมวงศ์, และจอม สุวรรณโณ. (2557). ปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทรงตัวบกพร่องของผู้สูงอายุในชุมชนชนบท. วารสารพยาบาลตำรวจ, 6(2), 56-69.
วิภาวี กิจกำแหง, นิพัธ กิตติมานนท์, และศุภสิทธิ์ พรรณารุโณทัย. (2549). ปัจจัยเสี่ยงต่อการหกล้มของผู้สูงอายุในชุมชน. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 15(5), 787-799.
ศิริรัตน์ ตันปิชาติ. (2554). ประสิทธิผลของเภสัชกรเยี่ยมบ้านในการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน ประเภท 2 ในชุมชน เขตกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานสำรวจสุขภาพประชาชนไทย. (2553). รายงานการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2551-2. นนทบุรี: เดอะ กราฟิโก ซิสเต็มส์.
สุกัลยา อมตฉายา, เยาวราภรณ์ ยืนยงค์, และวัณทนา ศิริธราธิวัตร. (2553). การทรงตัว การล้ม และคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุที่ออกกำลังกายและไม่ออกกำลังกายเป็นประจำ. ศรีนครินทร์เวชสาร, 25(2), 103-108.
อนุชา เศรษฐเสถียร, และดาวเรือง ข่มเมืองปักษ์. (2552). ปัจจัยเสี่ยงต่อการล้มแล้วกระดูกสะโพกหักของผู้สูงอายุที่รักษาในโรงพยาบาลอุดรธานี. ลำปางเวชสาร, 30(3), 154-162.
อุดม เพชรสังหาร. (2557). การหกล้มในผู้สูงอายุ. สืบค้น วันที่ 9 ธันวาคม 2559, จาก https://www.hsri.or.th/sites/default/files/attachment/5-11Jul14_Lokwannee_aging.pdf
Asada, T., et al. (1996). Predictors of fall-related injuries among community-dwelling elderly people with dementia. Age and Ageing, 25(1), 22-28.
Bekibele, C. O., & Gureje, O. (2010). Fall incidence in a population of elderly persons in Nigeria. Gerontology, 56(3), 278-283.
Berlie, H. D., & Garwood, C. L. (2010). Diabetes medications related to an increased risk of falls and fall-related morbidity in the elderly. The Annals of Pharmacotherapy, 44(4), 712-717.
Bird, M. L., Pittaway, J. K., Cuisick, I., Rattray, M., & Ahuja, K. D. (2013). Age-related changes in physical fall risk factors: Results from a 3 year follow-up of community dwelling older adults in Tasmania, Australia. International Journal of Environmental Research and Public Health, 10(11), 5989-5997.
Bloch, F., Thibaud, M., Dugué, B., Brèque, C., Rigaud, A. S., & Kemoun, G. (2010). Episodes of falling among elderly people: A systematic review and meta-analysis of social and demographic pre-disposing characteristics. Clinics, 65(9), 895-903.
Cho, H., Seol, S. J., Yoon, D. H., Kim, M. J., Choi, B. Y, & Kim, T. (2013). Disparity in the fear of falling between urban and rural residents in relation with socio-economic variables, health issues, and functional independency. Annals of Rehabilitation Medicine, 37(6), 848-861.
Deshpande, N., Metter, E. J., Lauretani, F., Bandinelli, S., Guralnik, J., & Ferrucci, L. (2008). Activity restriction induced by fear of falling and objective and subjective measures of physical function: A prospective cohort study. Journal of the American Geriatrics Society, 56(4), 615-620.
El Haber, N., Erbas, B., Hill, K. D., & Wark, J. D. (2008). Relationship between age and measures of balance, strength and gait: Linear and non-linear analyses. Clinical science, 114(12), 719-727.
Ignatavicius, D. D. (2010). Common health problemsof older adults. In Ignatavicius, D. D., & Workman, M. L. (Eds.). Medical-surgical nursing: Patient-centered collaborative care (6th ed.). pp. 15-25. Philadelphia: W. B. Saunders.
Medical Advisory Secretariat. (2008). Prevention of falls and fall-related injuries in community-dwelling seniors: An evidence-based analysis. Ontario Health Technology Assessment Series, 8(2), 1-78.
Morrison, A., Fan, T., Sen, S. S., & Weisenfluh, L. (2013). Epidemiology of falls and osteoporotic fractures: A systematic review. ClinicoEconomics and Outcomes Research, 5, 9-18.
O’Loughlin, J. L., Robitaille, Y., Boivin, J. F., & Suissa, S. (1993). Incidence of and risk factors for falls and injurious falls among the community-dwelling elderly. American Journal of Epidemiology, 137(3), 342-354.
Pereira, V. V., Maia, R. A., & Silva, S. M. C. (2013). The functional assessment Berg Balance Scale is better capable of estimating fall risk in the elderly than the posturographic Balance Stability System. Arquivos de Neuro-Psiquiatria, 71(1), 5-10.
Richardson, J. K., & Hurvitz, E. A. (1995). Peripheral neuropathy: A true risk factor for falls. The Journals of Gerontology. Series A, Biological Sciences and Medical Sciences, 50(4), M211-215.
Stevens, J. A., & Sogolow, E. D. (2005). Gender differences for non-fatal unintentional fall related injuries among older adults. Injury Prevention, 11(2), 115-119.
Taets Silva, W. F. L., et al. (2016). Fall determinants and associated factors in older people. International Journal of Sports Science, 6(4), 146-152.
Triplitt, C. (2006). Drug interactions of medications commonly used in diabetes. Diabetes Spectrum, 19(4), 202-211.
Viswanathan, A., & Sudarsky, L. (2012). Balance and gait problems in the elderly. Handbook of Clinical Neurology, 103, 623-634.
Volpato, S., Leveille, S. G., Blaum, C., Fried, L. P., & Guralnik, J. M. (2005). Risk factors for falls in older disabled women with diabetes: The women’s health and aging study. The Journals of Gerontology. Series A, Biological Sciences and Medical Sciences, 60(12), 1539-1545.
World Health Organization. (2007). WHO global report on falls prevention in older age. Geneva: Author.
Yoo, J. S., Kim, C. G., Yim, J., & Jeon, M. Y. (2016). Factors influencing falls in the frail elderly individuals in urban and rural areas. Aging Clinical and Experimental Research, 28(4), 687-697.
Yoshida-Intern, S. (2007). A global report on falls prevention: Epidemiology of falls. Geneva: WHO.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2016 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน