ยุทธศาสตร์การนำคุณค่าของผู้สูงอายุมาสู่สังคมอย่างสร้างสรรค์ บนพื้นฐานการสร้างหลักประกันคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชากรทุกวัย
คำสำคัญ:
ยุทธศาสตร์, คุณค่าของผู้สูงอายุ, คุณภาพชีวิตที่ดี, ประชากรทุกวัยบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีการวิจัยแบบผสม เพื่อศึกษาปรากฏการณ์ ปัญหา ปัจจัย และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคุณค่าของผู้สูงอายุในสังคมไทย และเพื่อพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายในการนำคุณค่าของผู้สูงอายุมาสู่สังคมอย่างสร้างสรรค์ที่เชื่อมโยงกับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากรทุกวัย กลุ่มตัวอย่างในการสำรวจเป็นประชาชนทั่วไป จำนวน 400 คน ผู้ให้ข้อมูลสำคัญในการสัมภาษณ์เชิงลึกเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 8 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมผู้สูงวัยได้ร่วมสนทนากลุ่ม จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบสอบถาม 2 ชุด ที่มีค่าความเชื่อมั่น .85 และ .87 และแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนสิงหาคม 2558 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการจัดหมวดหมู่ข้อมูล สถิติค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณค่าของผู้สูงอายุในทางบวกที่ควรนำมาใช้ประโยชน์มากกว่าคุณค่าทางลบ และเพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานด้านผู้สูงอายุร่วมกัน ประเทศไทยต้องกำหนดกรอบยุทธศาสตร์ 5 ระดับ ในการผลักดันการนำคุณค่าของผู้สูงอายุมาสู่สังคมอย่างสร้างสรรค์ บนพื้นฐานการสร้างหลักประกันคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชากรทุกวัย ซึ่งประกอบด้วยยุทธศาสตร์ที่ 1 ระดับประเทศ “ส่งเสริมให้มีการนำคุณค่าและประสบการณ์ของผู้สูงอายุมาสู่สังคมอย่างสร้างสรรค์เพื่อประชากรทุกวัย” ยุทธศาสตร์ที่ 2 ระดับภูมิภาค “บูรณาการความร่วมมือด้านกิจการเกี่ยวกับผู้สูงอายุ ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับจังหวัดและอำเภอ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับจังหวัด” ยุทธศาสตร์ที่ 3 ระดับท้องถิ่น “ส่งเสริมภูมิปัญญา กิจกรรม และสร้างความเข้มแข็งในการนำศักยภาพและคุณค่าของผู้สูงอายุในระดับท้องถิ่น” ยุทธศาสตร์ที่ 4 ระดับชุมชน “ส่งเสริมบทบาทผู้นำ และสถาบันในชุมชน เพื่อผลักดันให้เกิดเจตคติที่ดี และตระหนักถึงคุณค่าของผู้สูงอายุ” และยุทธศาสตร์ที่ 5 ระดับครอบครัว “เสริมสร้างความเข้าใจ และความอบอุ่นในครอบครัว เพื่อให้ผู้สูงอายุดำรงไว้ซึ่งความเป็นเสาหลักของครอบครัว” โดยควรนำมาตรการของแต่ละยุทธศาสตร์มาปฏิบัติ และมีการประสานร่วมมือกันทำงานอย่างเป็นองค์รวม เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชากรทุกวัย
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่าส่วนงานต่างๆ ควรกำหนดกลไกการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุโดยขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ภายใต้โครงสร้างความเข้มแข็งทั้ง 5 ระดับ โดยกำหนดเป้าหมายร่วมกันคือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้สูงอายุ
เอกสารอ้างอิง
ชาย โพธิสิตา. (2556). ศาสตร์และศิลป์แห่งการวิจัยเชิงคุณภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
ปราโมทย์ ประสาทกุล, ศุทธิดา ชวนวัน, และกาญจนา เทียนลาย. (2555). ผู้สูงอายุ: คนวงในที่จะถูกผลักให้ไปอยู่ชายขอบ. ใน เอกสารประกอบการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 8 “ประชากรและสังคม 2555” ประชากรชายขอบและความเป็นธรรมในสังคมไทย. หน้า 106-124. วันที่ 2 กรกฎาคม 2555 ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพฯ.
รศรินทร์ เกรย์, อุมาภรณ์ ภัทรวาณิชย์, เฉลิมพล แจ่มจันทร์, และเรวดี สุวรรณนพเก้า. (2556). มโนทัศน์ใหม่ของนิยามผู้สูงอายุ: มุมมองเชิงจิตวิทยาสังคม และสุขภาพ (รายงานผลการวิจัย). กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.
วรเวศม์ สุวรรณระดา, และรักชนก คชานุบาล. (2557). การขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (รายงานผลการวิจัย). กรุงเทพฯ: วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศิริวรรณ ศิริบุญ, และชเนตตี มิลินทางกูร. (2551). การเปลี่ยนแปลงในขนาดและสัดส่วนของ “ผู้สูงอายุ”. สืบค้น วันที่ 28 เมษายน 2558, จาก http://www.cps.chula.ac.th/cps/research_division/article_aging/aging_001.html
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2557). คุณค่าผู้สูงอายุในสังคมไทย. ภาวะสังคมไทยไตรมาสหนึ่ง ปี 2557, 11(2), 18-22.
อรทัย อาจอ่ำ. (2553). แก่แล้วไม่มีคุณค่าจริงหรือ?: บทสังเคราะห์ความรู้เกี่ยวกับคุณค่าของผู้สูงอายุ. ใน เอกสารประกอบการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 6 “ประชากรและสังคม 2553” คุณค่าผู้สูงอายุในสายตาสังคมไทย. หน้า 167-184. วันที่ 1 กรกฎาคม 2553 ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพฯ.
Bond, J., Peace, S. M., Dittmann-Kohli, F., & Westerhof, G. (Eds.). (2007). Ageing in society (3rd ed.). London: SAGE publications.
Debavalya, N. (2008). Aging policies and programmes in Thailand. In Guan, L. H. (Ed.). Aging in south east asia: Family, social protection and policy challenges. Singapore: Institute of Southeast Asian Studies.
Rudinger, G., & Thomae, H. (1990). The Bonn longitudinal study of aging: Coping, life adjustment, and life satisfaction. In Baltes, P. B., & Baltes, M. M. (Eds.). Successful aging: Perspectives from the behavioral sciences. pp. 265-295. Cambridge: Cambridge University Press.
United State Census Bureau. (2015). International Data Base. Retrieved June 15, 2015, from http://www.census.gov/population/international/data/idb/informationGateway.php
Yamane, T. (1973). Statistics: An introductory analysis (3rd ed.). New York: Harper and Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2016 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน