แบบจำลองเชิงสาเหตุพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยของวัยรุ่นหญิง
คำสำคัญ:
แบบจำลองเชิงสาเหตุ, พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย, วัยรุ่นหญิงบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ เพื่อพัฒนาและทดสอบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยของวัยรุ่นหญิง กลุ่มตัวอย่างเป็นวัยรุ่นหญิงที่มีประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์และกำลังศึกษาในวิทยาลัยอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาภาครัฐ ที่ตั้งในเขตภาคตะวันตก เลือกโดยวิธีการสุ่มแบบหลายขั้น จำนวน 374 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม แบบประเมินที่มีค่าความเชื่อมั่นอยู่ในช่วง .76-.94 และแบบวัดที่มีค่าความเชื่อมั่น .77 เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน 2558 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน และการวิเคราะห์แบบจำลองสมการโครงสร้างเชิงเส้น
ผลการวิจัยพบว่าแบบจำลองเชิงสาเหตุพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยของวัยรุ่นหญิงมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์อยู่ในระดับดี (X2/ df = 1.890, GFI = .95, AGFI = .92, CFI = .97, TLI = .95, RMR = .04, RMSEA = .05) ความตั้งใจในการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย และการแสวงหาความตื่นเต้นทางเพศ มีอิทธิพลทางตรงต่อพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ส่วนปัจจัยที่มีอิทธิพลทางอ้อมได้แก่ การรับรู้บรรทัดฐานทางสังคมต่อพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย การสื่อสารกับมารดาของวัยรุ่นหญิงเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ทัศนคติต่อพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย และการรับรู้การควบคุมพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย โดยตัวแปรทั้งหมดสามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยของวัยรุ่นหญิงได้ร้อยละ 81 (R2 = .81, p < .001) ตัวแปรที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือ ความตั้งใจในการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย (β = .88, p < .001) และเส้นทางอิทธิพลที่มีค่าอิทธิพลสูงสุดคือ ตัวแปรการรับรู้การควบคุมพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ซึ่งส่งผลทางอ้อมผ่านความตั้งใจในการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ไปยังพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยของวัยรุ่นหญิง (β = .36, p < .001)
จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่าพยาบาลควรจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้นักเรียนหญิงที่มีประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์ได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนสนิท และส่งเสริมทัศนคติทางบวก รวมทั้งเพิ่มความมั่นใจและความสามารถในการควบคุมพฤติกรรม นอกจากนี้ โรงเรียนควรมีกิจกรรมนอกหลักสูตรที่ส่งเสริมให้นักเรียนหญิงอาชีวศึกษามีศักยภาพในการควบคุมพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ร่วมกับความตั้งใจในการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย
เอกสารอ้างอิง
กันยารัตน์ กุยสุวรรณ, นำชัย ศุภฤกษ์ชัยสกุล, อังศินันท์ อินทรกำแหง, และวิลาสลักษณ์ ชัววัลลี. (2556). ปัจจัยสาเหตุของพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยจากโรคเอดส์ของทหารกองประจำการ กองทัพเรือ: การศึกษาการเปลี่ยนแปลงระหว่างช่วงเวลาการฝึกในศูนย์ฝึกทหารใหม่ และผลของโปรแกรมการลดความเสี่ยงจากโรคเอดส์. วารสารพฤติกรรมศาสตร์, 19(2), 35-58.
กาญจนา บุญส่ง, และคณะ. (2552). โครงการติดตามสถานการณ์เด็กและเยาวชนจังหวัดเพชรบุรี (รายงานผลการวิจัย). มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.
กุสุมาวดี เรืองแก้ว. (2549). เจตคติต่อค่านิยมทางวัฒนธรรมไทยบางประการและจิตลักษณะที่พยากรณ์พฤติกรรมการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีทางเพศสัมพันธ์ของสตรีวัยรุ่น (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
เขตบริการสุขภาพที่ 5. (2557). แผนยุทธศาสตร์สุขภาพ เขตบริการสุขภาพที่ 5 ปี 2557 (พิมพ์ครั้งที่ 2). ราชบุรี: งานเวชนิทัศน์และโสตทัศนศึกษา โรงพยาบาลราชบุรี.
คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา. (2554). รายงานการพิจารณาศึกษาเรื่องปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น. สืบค้น วันที่ 29 กันยายน 2553, จาก http://www.anamai.moph.go.th/main.php
เจตจันทร์ ล้วนเนตรเงิน. (2551). ผลของการฝึกอบรมการพัฒนาการรับรู้ความสามารถของตนเองและเสริมสร้างทัศนคติต่อการป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคเอดส์ ที่มีต่อการรับรู้ความสามารถของตนเอง ทัศนคติ และความตั้งใจหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคเอดส์ของนักเรียนหญิง (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
เฉวตสรร นามวาท, และสุปิยา จันทรมณี. (บ.ก.). (2554). ผลการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวี กลุ่มนักเรียน ประเทศไทย พ.ศ. 2554. นนทบุรี: สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.
ชลนิทรา แสงบุราณ. (2551). รูปแบบการเลี้ยงดูและการสื่อสารเรื่องเพศระหว่างมารดาและบุตรสาวต่อพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นตอนต้นหญิง เขตกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยมหิดล.
ณฐาภพ ระวะใจ. (2554). ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมป้องกันการเสี่ยงทางเพศของนักศึกษาในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร (ปริญญานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ทักษิณา เมืองใจ, และธีรวรรณ ธีระพงษ์. (2555). ความสามารถในการพยากรณ์ร่วมกันของการควบคุมตนเอง ความรู้เรื่องเพศศึกษาและการสื่อสารกับครอบครัวเรื่องการคบเพื่อนต่างเพศ ที่มีต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของนักเรียนหญิงวัยรุ่น. วารสารจิตวิทยาคลินิก, 43(1), 30-42.
พรฤดี นิธิรัตน์. (2554). ความจริงเบื้องหลังการใช้ถุงยางอนามัย: เหตุผลหลักที่ทำให้วัยรุ่นไทยไม่ใช้ถุงยางอนามัย. วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, 22(1), 60-71.
รุ่งรัตน์ ศรีสุริยเวศน์, และพรนภา หอมสินธุ์. (2557). การสื่อสารของบุตรสาวกับมารดาเกี่ยวกับความเสี่ยงทางเพศ และปัจจัยด้านจิตสังคมที่มีความสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ของนักเรียนหญิง. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา, 9(2), 33-44.
วรรณศิริ ปิ่นทอง. (2549). ความสามารถในการพยากรณ์ของการอบรมเลี้ยงดู การสนับสนุนทางสังคมจากกลุ่มเพื่อน การรับรู้ทางเพศผ่านสื่อ และการควบคุมตนที่มีต่อพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่น (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
วัชรพล สีนอ. (2556). โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์. ใน สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. สรุปรายงานการเฝ้าระวังโรค ประจำปี 2555. หน้า 103-105. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
วารุณี ฟองแก้ว, และคณะ. (2549). การป้องกันและลดการติดเชื้อเอชไอวีในวัยรุ่นและเยาวชน: สถานการณ์ปัจจุบัน (รายงานผลการวิจัย). คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สถาบันรามจิตติ. (2556). สภาวการณ์เด็กและเยาวชนในรอบปี 2554-2555. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ.
สมภพ เรืองตระกูล. (2551). จิตเวชเด็กและวัยรุ่น (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: เรือนแก้วการพิมพ์.
สุทธิลักษณ์ ตั้งกุลบริบูรณ์, พักตร์วิไล ศรีแสง, ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ, สุดาวดี ศรีสุดตา, และพร้อมจิต ห่อนบุญเหิม. (2548). การสังเคราะห์องค์ความรู้ด้านการอบรมเลี้ยงดูและการพัฒนาทักษะชีวิตเด็กนักเรียนและวัยรุ่นเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศและสารเสพติด (รายงานผลการวิจัย). มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
โสพิน โตธิรกุล. (2553). “แม่ญิงฮ้าย”: พฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นหญิงจังหวัดเชียงใหม่ (รายงานผลการวิจัย). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยแม่โจ้.
Ajzen, I. (2005). Attitudes, personality, and behavior (2nd ed.). New York: Open University Press.
Ajzen, I. (2006). Constructing a TPB Questionnaire: Conceptual and methodological considerations. Retrieved June 27, 2011, from http://www.people.umass.edu/aizen/pdf/tpb.measurement.pdf
Ajzen, I., & Fishbein, M. (1980). Understanding attitudes and predicting social behavior. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
Burns, N., & Grove, S. K. (2009). The practice of nursing research: Appraisal, synthesis, and generation of evidence. St. Louis, MO: Saunders Elsevier.
Cha, E-S., Kim, K. H., & Patrick, T. E. (2008). Predictors of intention to practice safer sex among Korean college students. Archives of Sexual Behavior, 37(4), 641-651.
Coulter, A. (2007). Sexual sensation seeking and self-efficacy relation to sexual risk taking behavior. (master’s thesis). Arcata, CA: Humboldt State University.
DiClemente, R. J, Wingood, G. M., Crosby, R., Cobb, B. K., Harrington, K., & Davies, S. L. (2001). Parent-adolescent communication and sexual risk behaviors among African American adolescent females. The Journal of Pediatrics, 139(3), 407-412.
DiIorio, C., Parsons, M., Lehr, S., Adame, D., & Carlone, J. (1992). Measurement of safe sex behavior in adolescents and young adults. Nursing Research, 41(4), 203-208.
Doswell, W. M., Kim, Y., Braxter, B., Taylor, J., Kitutu, J., & Hsu, Y. A. (2003). A theoretical model of early teen sexual behavior: What research tells us about mother’s influence on the sexual behavior of early adolescent girls. Journal of Theory Construction & Testing, 7(2), 56-60.
Fisher, T. D., Davis, C. M., Yarber, W. L., & Davis, S. L. (Eds.). (2011). Handbook of sexuality-related Measures (3rd ed.). New York: Routledge.
Green, L., & Kreuter, M. (2005). Health program planning: An educational and ecological approach (4th ed.). New York: McGraw-Hill.
Hague, M. R., & Soonthorndhada, A. (2009). Risk perception and condom-use among Thai youths: Finding from Kanchanaburi Demographic Surveillance System site in Thailand. Journal of Health, Population and Nutrition, 27(6), 772-783.
Hair, J. F., Black, B., Babin, B., Anderson, R. E., & Tatham, R. L. (2006). Multivariate data analysis (6th ed.). Upper Saddle River, NJ: Pearson Prentice Hall.
Hutchinson, M. K., Jemmott, J. B. III, Jemmott, L. S., Braverman, P., & Fong, G. T. (2003). The role of mother-daughter sexual risk communication in reducing sexual risk behaviors among urban adolescent females: A prospective study. Journal of Adolescent Health, 33(2), 98-107.
Hutchinson, M. K., & Wood, E. B. (2007). Reconceptualizing adolescent sexual risk in a parent-based expansion of the Theory of Planned Behavior. Journal of Nursing Scholarship, 39(2), 141-146.
Jenkins, R. A., et al. (2002). Condom use among vocational school students in Chiang Rai, Thailand. AIDS Education and Prevention, 14(3), 228-245.
Kalichman, S. C., Simbayi, L. C., Jooste, S., Cain, D., & Cherry, C. (2006). Sensation seeking, alcohol use, and sexual behaviors among sexually transmitted infection clinic patients in Cape Town, South Africa. Psychology of Addictive Behaviors, 20(3), 298-304.
Kenyon, D. B., Sieving, R. E., Jerstad, S. J., Pettingell, S. L., & Skay, C. L. (2010). Individual, interpersonal, and relationship factors predicting hormonal and condom use consistency among adolescent girls. Journal of Pediatric Health Care, 24(4), 241-249.
Khumsaen, N., & Gary, F. A. (2009). Determinants of actual condom use among adolescents in Thailand. Journal of the Association of Nurses in AIDS Care, 20(3), 218-229.
Koniak-Griffin, D., & Stein, J. A. (2006). Predictors of sexual risk behaviors among adolescent mothers in a human immunodeficiency virus prevention program. Journal of Adolescent Health, 38(3), 297.e1-297.e11.
Powwattana, A. (2009). Sexual behavior model among young Thai women living in slums in Bangkok, Thailand. Asia Pacific Journal of Public Health, 21(4), 451-460.
Rasamimari, A., Dancy, B., Talashek, M., & Park, C. G. (2007). Predictors of sexual behaviors among Thai young adults. Journal of the Association of Nurses in AIDS Care, 18(6), 13-21.
Rhodes, F., Stein, J. A., Fishbein, M., Goldstein, R. B., & Rotheram-Borus, M. J. (2007). Using theory to understand how interventions work: Project RESPECT, condom use, and the Integrative Model. AIDS and Behavior, 11(3), 393-407.
Ritchwood, T. D., Penn, D. C., DiClemente, R. J., Rose, E. S., & Sales, J. M. (2014). Influence of sexual sensation-seeking on factors associated with risky sexual behaviour among African-American female adolescents. Sexual Health, 11(6), 540-546.
Sheeran, P., & Abraham, C. (2003). Mediator of moderators: Temporal stability of intention and the intention-behavior relation. Personality and Social Psychology Bulletin, 29(2), 205-215.
Srisuriyawet, R. (2006). Psychosocial and gender based determinants for sexual risk behaviors among adolescents in school (doctoral dissertation). Chiang Mai University.
Thato, S., Charron-Prochownik, D., Dorn, L. D., Albrecht, S. A., & Stone, C. A. (2003). Predictors of condom use among adolescent Thai vocational students. Journal of Nursing Scholarship, 35(2), 157-163.
UNAIDS. (2013). 2013 UNAIDS Global Report. Retrieved May 1, 2015, from http://www.unaids.org/en/media/unaids/contentassets/documents/epidemiology/2013/gr2013/UNAIDS_Global_Report_2013_en.pdf
Villarruel, A. M., Jemmott, J. B. III, Jemmott, L. S., & Ronis, D. L. (2004). Predictors of sexual intercourse and condom use intentions among Spanish-dominant Latino youth: A test of the Planned Behavior Theory. Nursing Research, 53(3), 172-181.
Wayuhuerd, S., Phancharoenworakul, K., Avant, K. C., Sinsuksai, N., & Vorapongsathorn, T. (2010). Using the Theory of Planned Behavior to predict condom use behavior among Thai adolescents. Pacific Rim International Journal of Nursing Research, 14(4), 315-329.
Yan, H., et al. (2009). Multiple sex partner behavior in female undergraduate students in China: A multi-campus survey. BMC Public Health, 9, 305.
Zuckerman, M. (1994). Behavioral expressions and biosocial bases of sensation-seeking. Cambridge: Cambridge University Press.
Zuckerman, M., & Kuhlman, D. M. (2000). Personality and risk-taking: Common biosocial factors. Journal of Personality, 68(6), 999-1029.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2016 วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อความ ข้อมูล และรายการอ้างอิงที่ผู้เขียนใช้ในการเขียนบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นความคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยหรือร่วมรับผิดชอบ
บทความที่ได้รับการลงตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี หากหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการนำส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของบทความไปเผยแพร่ต่อเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตจากบรรณาธิการวารสารก่อน