การศึกษาสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสนามโรงพยาบาลวชิรพยาบาล

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงอนาคตภาพแบบวิธีการเดลฟายนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลวชิรพยาบาล กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 อายุรแพทย์อนุสาขาโรคติดเชื้อหรือโรคระบบการหายใจ กลุ่มที่ 2 ผู้บริหารทางการพยาบาล กลุ่มที่ 3 พยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ในการประสานงานกับพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสนาม กลุ่มที่ 4 พยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสนาม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และแบบสอบถาม จำนวน 2 ชุด คุณภาพเครื่องมือของแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างมีค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับจุดประสงค์ เท่ากับ 1.00 ดำเนินการวิจัยโดยสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสมรรถนะพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสนาม เพื่อสรุปเนื้อหาแล้วนำมาสร้างแบบสอบถาม และวิเคราะห์การยืนยันผลเกี่ยวกับสมรรถนะทั้งหมดเป็นข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้สถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่ามัธยฐาน (MD) และค่าพิสัยระหว่างควอไทล์ (IR)

ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 19 ราย อายุเฉลี่ย 38 ปี ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 84.22 มีระดับการศึกษาปริญญาตรีมากที่สุด ร้อยละ 63.15 รองลงมา คือ มีระดับการศึกษาปริญญาโท ร้อยละ 26.32 และปริญญาเอก ร้อยละ 10.53 สมรรถนะพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ประกอบด้วย 8 สมรรถนะหลัก คือ 1) ด้านการเป็นต้นแบบและจิตสาธารณะ (MD = 4.68, IR = .37) 2) ด้านการทำงานเป็นทีม และการประสานความร่วมมือในการทำงาน (MD = 4.56, IR = .63) 3) ด้านการปฏิบัติการพยาบาลเฉพาะ (MD = 4.51, IR = .64) 4) ด้านภาวะผู้นำในการพยาบาล (MD = 4.51, IR = .70) 5) ด้านการป้องกัน และควบคุมการเฝ้าระวังการติดเชื้อ (MD = 4.48, IR = .63) 6) ด้านการแก้ปัญหา และการตัดสินใจ (MD = 4.45, IR = .77) 7) ด้านมุมมองเชิงระบบ และเวชศาสตร์เขตเมือง (MD = 4.29, IR = .78) และ 8) ด้านการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ (MD = 4.24, IR = .85) และ 88 รายข้อย่อย โดยเฉพาะในด้านการเป็นต้นแบบ และจิตสาธารณะ การทำงานเป็นทีม และการปฏิบัติการพยาบาลเฉพาะ มีความสำคัญทำให้ปฏิบัติการพยาบาลในสถานการณ์ของโรคระบาดมีประสิทธิภาพ