ความรอบรู้สุขภาพของชมรมผู้สูงอายุเพื่อส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ “ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย”: กรณีศึกษาเขตดอนเมือง
คำสำคัญ:
ผู้สูงอายุ, การส่งเสริมสุขภาพ, ความรอบรู้สุขภาพบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยความรอบรู้สุขภาพของชมรมผ้สูงอายุเพื่อส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุเป็นการศึกษาเชิงปริมาณและคุณภาพนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์และสังเคราะห์การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุให้ “ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย” ของชมรมผู้สูงอายุเขตดอนเมืองผ่านการ เป็นองค์กรรอบรู้สุขภาพ โดยใช้กรอบแนวคิดของ PIRAB คือ Partner Invest Regulate and Legislate Advocate และ Build capacity (กระทรวงสาธารณสุข, 2560) ร่วมกับองค์ประกอบ ของสังคมความรอบรู้ ประชากร คือ 24 ชมรมผู้สูงอายุในเขตดอนเมือง กลุ่มตัวอย่าง คือ 3 ชมรมที่เลือกแบบเจาะจงโดยผู้ให้ข้อมูล คือ ประธาน สมาชิกชมรมผู้สูงอายุจำนวน 90 คนเครื่องมือวิจัย คือ แบบสอบถามผ่านการตรวจสอบเชิงเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ ค่าดัชนีความสอดคล้อง 1.00 ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาคของแบบสอบถามทั้งฉบับได้ 0.958 แนวคำถามสนทนากลุ่ม ถอดบทเรียน การสังเกตแบบมีส่วนร่วม การสัมภาษณ์เจาะลึกและ เอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยใช้การตรวจสอบแบบสามเส้าด้านข้อมูล ด้านวิธีการรวบรวมข้อมูลและ ด้านผู้วิจัย วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยร้อยละ ส่วนข้อมูลคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหาสังเคราะห์ชุดข้อมูลใหม่จากการเปรียบเทียบตาราง ความสัมพันธ์และเทียบเคียงตามกรอบแนวคิดที่กำหนด
ผลการวิจัยพบว่า ร้อยละ 90 ชมรมผู้สูงอายุอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร จัดตั้งระหว่าง 5-10 ปี สมาชิกน้อยกว่า 50 คน ช่วงอายุของสมาชิก 70-79 ปี จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ ด้วยชมรมเองโดยการบริหารจัดการชมรมผู้สูงอายุเป็นไปตามศักยภาพของผู้นำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพทำเองและไม่ต่อเนื่อง ยังไม่มีความเข้าใจการเป็นองค์กรความรอบรู้ของผู้สูงอายุ มุ่งทำกิจกรรมในมิติ“ไม่ซึมเศร้า” ที่เน้นสร้างความสุขทางใจเป็นลำดับแรก โดยผลงานวิจัย สามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์ให้เกิดกลไกการส่งเสริมสุขภาพของชมรมผู้สูงอายุในเรื่อง “ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย” ให้เป็นองค์กรรอบรู้สุขภาพควรเป็น “รูปแบบ Smart by LITS (Leadership, Information, Team, Stakeholder)” ประกอบด้วย ภาวะผู้นำของกรรมการ (Leadership: L) ดึงศักยภาพคณะกรรมการและสมาชิกให้ร่วมกันทำกิจกรรมจนบรรลุเป้าหมาย แสวงหาเครือข่ายสวัสดิการผู้สูงอายุ ใช้ข้อมูลเพื่อการทำงาน (Information: I) โดยรวบรวม จัดการและใช้ข้อมูลเพื่อทำกิจกรรมหรือโครงการต่อเนื่องสม่ำเสมอ การทำงานเป็นทีม (Team: T) ประสานให้สมาชิกได้รับประโยชน์ การร่วมกันคิดและทำกิจกรรมแบบต่อยอด ภาคีเครือข่าย (Stakeholder: S) ทำงานร่วมและแสวงหาภาคี เครือข่ายใหม่ในการทำงาน ข้อเสนอแนะงานวิจัย คือ ชมรมผู้สูงอายุควรวิเคราะห์ความต้องการ ของสมาชิกให้ครอบคลุม “ไม่ล้ม ไม่ลืม ไม่ซึมเศร้า กินข้าวอร่อย” จัดกิจกรรมให้ตามลำดับ ความสำคัญจนปฏิบัติได้และสามารถนำประสบการณ์ไปถ่ายทอด ควรสนับสนุนชมรมผู้สูงอายุให้ดำเนินกิจกรรมที่ยกระดับการพัฒนาความรอบรู้สุขภาพของผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่องร่วมกับติดตามประเมินเสริมพลังการขับเคลื่อนชมรมผู้สูงอายุเป็นองค์กรรอบรู้สุขภาพ











