สัมพันธภาพในครอบครัวในการส่งเสริมการดูแลตนเองเพื่อควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได

ผู้แต่ง

  • ธีรนันท์ วรรณศิริ อาจารย์ประคณะพยาบาลศาสตร์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสัมพันธภาพในครอบครัวในการส่งเสริมการดูแลตนเอง เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ครอบครัวผู้ป่วยเบาหวาน ได้แก่ผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมโรคได้โดยมีระดับ HbA1c มากกว่า 7% และสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งหมด 19 ครอบครัว เลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสัมภาษณ์ครอบครัวผู้ป่วยเบาหวานผลการวิจัยพบว่า สัมพันธภาพในครอบครัวมีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน ดังนี้ 1. ผู้ป่วยเบาหวานที่ช่วยเหลือตัวเองได้ผู้ดูแลจะสนับสนุนผู้ป่วยด้านสิ่งของ
เหมือนก่อนป่วย โดย 1) ผู้ดูแลไม่ได้เข้มงวดในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน 2) ช่วยเหลือสิ่งที่ผู้ป่วยทำไม่ได้ 3)คู่สมรสเป็นแหล่งสนับสนุนให้กำลังใจที่สำคัญ 2. การสนับสนุนด้านอารมณ์โดยสมาชิกในครอบครัวมีความรักใคร่ผูกพันกัน โดยมีความเป็นห่วงใยกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน 3. ผู้ป่วยเบาหวานที่ดูแลตนเองได้น้อย ยากจน จะได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวน้อย โดยบุตรจะแยกครอบครัวอยู่ต่างหาก เพราะสะดวกในการประกอบอาชีพ และผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่มีอำนาจการตัดสินใจ สมาชิกในครอบครัวจะต่างคนต่างอยู่ข้อเสนอแนะให้บุคลากรทางสุขภาพจัดการฝึกอบรมให้ความรู้ผู้ป่วยเบาหวานและสมาชิกในครอบครัวเกี่ยวกับการควบคุมโรคเบาหวาน เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปปฏิบัติกับผู้ป่วยเบาหวานในครอบครัวได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนลงได้

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-06-30

รูปแบบการอ้างอิง

1.
วรรณศิริ ธ. สัมพันธภาพในครอบครัวในการส่งเสริมการดูแลตนเองเพื่อควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได. วารสารพยาบาลเกื้อการุณย์ [อินเทอร์เน็ต]. 30 มิถุนายน 2018 [อ้างถึง 25 ธันวาคม 2025];23(2):31-50. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/kcn/article/view/149368

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย