ประสิทธิภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องการตรวจร่างกายทารกแรกเกิดโดยใช้ภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาพยาบาล
คำสำคัญ:
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน, การตรวจร่างกายทารกแรกเกิด, การใช้ภาษาอังกฤษ, นักศึกษาพยาบาลบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลัง มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1) หาประสิทธิภาพบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการตรวจร่างกายทารกแรกเกิดโดยใช้ภาษาอังกฤษ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนและหลังเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการตรวจร่างกายทารกแรกเกิดโดยใช้ภาษาอังกฤษ 3) ศึกษาความคิดเห็นของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษในการตรวจร่างกายทารกแรกเกิด กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 3 ปีการศึกษา 2557 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จำนวน 33 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วยแผนการสอนและบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการตรวจร่างกายทารกแรกเกิดโดยใช้ภาษาอังกฤษ เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการตรวจร่างกายทารกแรกเกิดโดยใช้ภาษาอังกฤษที่มีค่าความเชื่อมั่น 0.82 และแบบสอบถามความคิดเห็นต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการตรวจร่างกายทารกแรกเกิดโดยใช้ภาษาอังกฤษ ที่มีค่าความเชื่อมั่น 0.80 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติการทดสอบที ผลการวิจัย พบว่า 1) ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น เรื่องการตรวจร่างกายทารกแรกเกิดโดยใช้ภาษาอังกฤษ มีค่าประสิทธิภาพ 81.2/86.28
2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการตรวจร่างกายทารกแรกเกิด โดยใช้ภาษาอังกฤษ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ
3) ความคิดเห็นของนักศึกษาพยาบาลที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการตรวจร่างกายทารกแรกเกิดโดยใช้ภาษาอังกฤษ มีค่าเฉลี่ยคะแนนความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับดี
(x = 4.14 , S.D=0.73) ข้อเสนอแนะในการวิจัย ผู้สอนควรใช้รูปแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนร่วมกับวิธีการสอนที่หลากหลาย เพื่อส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษด้านการอ่านและการเขียน ซึ่งเป็นข้อจำกัดของนักศึกษา ให้มีการเรียนรู้้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากเป็นทักษะที่สำคัญและใช้ในการปฏิบัติงานจริง
เอกสารอ้างอิง
การพยาบาลและการศึกษา. 3(2), 28-43.
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2559). ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical hub) (พ.ศ.2560-2569). สืบค้นเมื่อ
15 สิงหาคม 2560, จาก 203.157.7.120/file upload/2560-102.pdf
ขวัญใจ เตชเสนสกุล. (2555) . ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ทักษะที่แรงงานไทยยังต้องพัฒนา. สืบค้นเมื่อ 15 สิงหาคม 2560 , จาก http://www.thai-aec.com/458.
จักรพรรดิ คงนะ. (2550). การพัฒนาแบบฝึกหัดการอ่านภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับปัญหาของวัยรุ่นตอนต้นสำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนหลวงพ่อแช่มวัดตาก้องอนุสรณ์
จังหวัดนครปฐม (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร,กรุงเทพฯ.
จิณพิชญ์ชา มะมม. (2555). ผลของการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการทำความสะอาดแผลกดทับต่อความรู้และการปฏิบัติของนักศึกษาพยาบาล. วารสารสภาการพยาบาล. 27(3), 63-67.
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2556). การทดสอบประสิทธิภาพสื่อหรือชุดการสอน. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย. 5(1), 5-20.
ณัฏฐพล คุปต์ธนโรจน์. (2555). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนคำศัพท์ภาษาอังกฤษตามแนวเรื่อง โดยใช้กลวิธีการเดาความหมายคำศัพท์จากบริบทสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร จังหวัดนครปฐม. Veridian E-Journal. 5 (1), 283-302.











