Efficiency Comparison of Multi Leaf Collimator and Lead block in Radiotherapy Service
Abstract
วัตถุประสงค์ : เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการใช้ MI.Cกับการใช้ก้อนตะกั่วกั่วกั้นรังสี ในความถูกต้องแม่นยำของการกำหนดขอบเขตพื้นที่นที่ฉายรังสี และความสะดวกรวดเร็วในการจัดพื้นที่ฉายรังสีของผู้ป่วยในแต่ละวัน
วิธีดำเนินการ : ศึกษาเชิงทดลองเปรียบเทียบจากพื้นที่ฉายรังสีที่ใช้ให้บริการผู้ป่วยประจำวันจำนวน 20 ราย ที่ใช้ MI.C และก้อนตะกั่วกั้นรังสี ด้านความถูกต้อง ความแม่นยำ ความสะดวก และความรวดเร็ว
ผลการทดลอง : จากการศึกษาพบว่า ในด้านความถูกต้องของการกำหนดพื้นที่ฉายรังสี ระบบ MILC มีค่าความคลาดเคลื่อนเฉลี่ย 1.70土2.30 mm ในขณะที่ก้อนตะกั่วกั้นรังสีมีคำความคลาดเคลื่อนเฉลี่ย 2.50土2.50 mm ด้วยระดับความเชื่อมั่น 95% (๓=20) ระบบ MLC มีความแม่นย่ำของการกำหนดพื้นที่รังสีมากกว่าก้อนตะกั่วกั้นรังสือย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้สถิติ (pair t- test 0.05) การจัดพื้นที่ฉายรังสีให้ผู้ป่วยแต่ละรายโดยใช้ก้อนตะกั่วกั้นรังสีใช้เวลามากกว่า ระบบ MLC โดยเฉลี่ย 1.5 เท่า และเจ้าหน้าที่ต้องยกก้อนตะกั่วขนาดมาตรฐาน 4 ก้อนและถาดวางก้อนตะกั่วรวมน้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ในการฉายรังสีผู้ป่วยแต่ละราย
สรุปและวิจารณ์ : เรื่องเมรีเสีที่นิวมย MILC มีประสิทธิภาพทั้งในด้านดาานถูกลัองแน่นเช้า และความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการผู้ป่วย สูงกว่าการใช้ก้อนตะกั่วกั้นรังสี นอกจากนี้ระบบ MI.C ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเทลนิคของรังสีรักษาใหม่ ๆ ในอนาคต ที่ต้องการความถูกต้องแม่นยำสูง เช่น 3D-conformal , SRS , IMRT เป็นต้น
References
Helyer S.J., Heisig S. Multileaf collima- tion versus conventional shielding blocks a time and motion study of beam shaping in radiotherapy. Radiation Oncology 1995 ; 37 : 61-64.
Cheng CW.,Das DJ., Steinberg T. Role of multileaf collimator in replacing shielding blocks in radiation therapy. Int J. Cancer 2001 ; 96 (6) : 385-395.
Forman J, Mesina C., He t.et al. Evalu- ation of changes in the location and shape of prostate and rectum during a seven week course of conformal radiotherapy. Int J. Radiat Oncol Biol Phys 1993 ; 27 (Suppl. 1) : 154.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมะเร็งวิวัฒน์ ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับ และบุคคลากรท่านอื่น ๆ ใน สมาคมฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
