ผลของโปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะการดูแลตนเองโดยอาศัยรูปแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและฮีโมโกลบินเอวันซีของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

ผู้แต่ง

  • ประภัสสร ไชยชนะ โรงพยาบาลป่าแดด จังหวัดเชียงราย
  • จุฑามาศ กิติศรี คณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยเชียงราย

คำสำคัญ:

โปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะการดูแลตนเอง, ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2, ฮีโมโกลบินเอวันซี, พฤติกรรมการดูแลตนเอง, รูปแบบเพื่อนช่วยเพื่อน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองเพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะการ ดูแลตนเองโดยอาศัยรูปแบบเพื่อนช่วยเพื่อนต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและฮีโมโกลบินเอวันซีของ ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยเบาหวานที่รับบริการในเขตพื้นที่โรงพยาบาลป่าแดด จ.เชียงราย จำนวน 60 ราย สุ่มกลุ่มตัวอย่างเข้ากลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมกลุ่มละ 30 รายจับคู่ ให้มีลักษณะคล้ายคลึงกัน กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะการดูแลตนเองแบบ เพื่อนช่วยเพื่อนตามแนวคิดของ Bandura กลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ เครื่องมือที่ใช้ ในการวิจัยประกอบด้วย โปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะการดูแลตนเองโดยอาศัยรูปแบบเพื่อนช่วย เพื่อน เครื่องวัดระดับฮีโมโกลบินเอวันซี และแบบสอบถามพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วย เบาหวาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สถิติทดสอบที

ผลการศึกษาพบว่า ภายหลังได้รับโปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะการดูแลตนเองโดยอาศัย รูปแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ค่าเฉลี่ยคะแนนพฤติกรรมการดูแลตนเองเพิ่มสูงขึ้นและสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับ การพยาบาลตามปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.01) ค่าเฉลี่ยระดับฮีโมโกลบินเอวันซีลดลงและ ลดต่ำกว่ากลุ่มที่ได้รับการพยาบาลตามปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.01)

References

World Health Organization. World Health Statistics [online]. 2015 [cited 2017 Jun, 7]. Available from: http://www.who.int.

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย. ตัวชี้วัดระดับจังหวัด [ออนไลน์]. 2558 [เข้าถึงเมื่อ 2560/1/10]. เข้าได้จาก: http://healthkpi.moph.go.th.

International Diabetes Federation (IDF). Global guideline for type 2 diabetes. [online]. 2012. [cited 2017 Jun 10]. Available from: www.idf.org.

สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. ประเด็นสารรณรงค์วันเบาหวานโลก [ออนไลน์]. 2559 [เข้าถึงเมื่อ 2561/1/6]. เข้าได้จาก: http://www.thaincd.com.

งานบริการคลินิกพิเศษโรงพยาบาลป่าแดด. ผลงานการพยาบาลคลินิกพิเศษ ปี 2555-2558. โรงพยาบาลป่าแดด: เชียงราย; 2558.

นาฏสิริ ศัลยานุบาล. โปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสขุ ภาพเพื่อการดูแลตนเองของผู้มีภาวะเสี่ยง เบาหวาน. วารสารโรคและภัยสุขภาพ สคร 8. 2553;4(1):81-90.

สุวิทย์ชัย ทองกูล. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานอำเภอเดชอุดม จ.อุบลราชธานี. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์. 2014;3(2):73-90.

Bandura A.Self-efficacy: the exercise of control.New York: Freeman and Company; 1997.

จรวยพร ใจสิทธิ์ รติรันต์ มีธรรมและ พัชรินทร์ คำแก่น ผลของโปรแกรมสนับสนุนการจัดการตนเองต่อ พฤติกรรมการจัดการตนเองและระดับฮีโมโกลบินเอวันซีในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ. 2560;40(2):65-73. 

นงลักษณ์ เทศนา จมาภรณ์ ใจภักดี บุญทนากร พรหมภักดีและ กนกพร พินิจลึก. การพัฒนารูปแบบ การป้องกันการป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในประชาชนกลุ่มเสี่ยง. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 2559; 10(1):92-100.

Burn N, Grove S.K. The practice of nursing research: conduct, critique, & utilization. 5thed. Philadelphia: Elsevier; 2005.

สุนทรี สุรัตน์ กิตติ ศศิวิมลลักษณ์ เกวลี เครือจักร และวิโรจน์ มงคลเทพ. ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัย ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวาน ในพื้นที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย. วารสารการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิต. 2559;4(2):297–307.

กัตติกา ธนะขว้าง จินตนา รัตนวิฑูรย์และจามจุรีย์ ทนุรัตน์. การพัฒนาเครือข่ายเพื่อช่วยเพื่อและ ศักยภาพในการดูแลตนเองเพื่อการสูงวัยอย่างมีสุขภาวะของผู้สูงอายุ. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข. 2554;5(3):381-391.

อุษา ทัศวิน ธีรนุช ห้านิรัติศัยและ วันเพ็ญ ภิญโญภาสกุล. ผลของการเข้าค่ายเบาหวานกลางวันต่อการ รับรู้สมรรถนะแห่งตน พฤติกรรมการดูแลตนเองและระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 วารสารสภาการพยาบาล. 2553;25(1):53-66.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2019-06-20

How to Cite

ไชยชนะ ป., & กิติศรี จ. (2019). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมสมรรถนะการดูแลตนเองโดยอาศัยรูปแบบเพื่อนช่วยเพื่อน ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและฮีโมโกลบินเอวันซีของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ, 24(1), 100–111. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jnorthnurse/article/view/196239