ประสิทธิผลของการบริการเภสัชกรรมทางไกล (Telepharmacy) ในผู้ป่วยเบาหวานของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเครือข่ายอำเภอเมืองตาก

บทคัดย่อ

บทนำ: การแพร่ระบาดของโรคโควิด 2019 ทำให้มีการพัฒนาการดูแลผู้ป่วย โดยใช้ระบบการแพทย์ทางไกล ซึ่งผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการสาธารณสุข ผ่านทางเทคโนโลยีและการสื่อสารที่ทันสมัย การบริการเภสัชกรรมทางไกลจัดเป็นส่วนหนึ่งของระบบการแพทย์ทางไกล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพใน การรักษาและลดความคับคั่งของผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้

วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความรู้เกี่ยวกับการใช้ยา ระหว่างก่อนและหลังการบริการเภสัชกรรมทางไกลในผู้ป่วยเบาหวานที่มีค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลในเลือดสะสม (HbA1c) ตั้งแต่ 7.0 ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในอำเภอเมืองตาก

วิธีการศึกษา: การวิจัยแบบกึ่งทดลอง ในระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ถึง 30 มีนาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยเบาหวานที่มีค่า HbA1c ตั้งแต่ 7.0 ขึ้นไป ใน รพ.สต.ในอำเภอเมืองตาก คัดเลือตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง แบ่งเป็นกลุ่มที่ 1 ได้รับการบริการเภสัชกรรมทางไกล และกลุ่มที่ 2 ได้รับการบริการตามมาตรฐาน

ผลการศึกษา: กลุ่มที่ 1 จำนวน 100 คน อายุเฉลี่ย 57.39 ± 8.56 ปี เพศหญิง จำนวน 74 คน (ร้อยละ 74) กลุ่มที่ 2 (จำนวน 100 คน) อายุเฉลี่ย 58.39±8.51 ปี เพศหญิง จำนวน 73 คน (ร้อยละ 73) ค่าเฉลี่ยระดับกลูโคสในพลาสมาขณะอดอาหาร (FPG) ในกลุ่มที่ 1 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จาก 183.58±23.31 เหลือ 158.65±23.31 mg/dL (95% CI = 20.76 - 30.34, p<0.001) และค่าเฉลี่ยระดับน้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1c) ลดลงจาก 9.03±0.80 เหลือ 8.21±0.94 (95%CI = 0.69 - 0.95, p<0.001) เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ 2 ค่า FPG ลดลงจาก 175.61±11.65 เหลือ 158.12±23.28 mg/dL (95% CI = 12.30 - 22.67, p<0.001) และค่า HbA1c ลดลงจาก 8.50±0.91 เหลือ 8.21±0.94 (95% CI = -0.17 - 0.30, p=0.601) นอกจากนี้การบริการเภสัชกรรมทางไกลยังช่วยเพิ่มความรู้ ความร่วมมือในการใช้ยา และการค้นหาปัญหาจากการใช้ยามีประสิทธิภาพมากขึ้น

สรุปผลการศึกษา: การบริการเภสัชกรรมทางไกล ช่วยส่งเสริมให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มความรู้ ความร่วมมือในการใช้ยาและการค้นหาปัญหาจากการใช้ยามีประสิทธิภาพมากขึ้น