ผลของการใช้ NEWS Score เฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลง และสัญญาณเตือนของ ผู้ป่วยแผนกอุบัติเหตุ และฉุกเฉิน โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
การใช้ NEWS Score เฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลง, สัญญาณเตือน, ผู้ป่วยแผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉินบทคัดย่อ
การวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดก่อนและหลังการอบรม มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการใช้แนวทางการประเมินสัญญาณเตือนก่อนการเข้าสู่ภาวะวิกฤต (Nakornping Early Warning Signs score, NEWS score) ในการเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วย แผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มตัวอย่างคัดเลือกแบบเจาะจง ประกอบด้วย 1)พยาบาลวิชาชีพแผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน จำนวน 37 คน และ 2) ผู้ป่วยที่มารับการรักษาที่แผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ในช่วงเดือน มกราคม – มีนาคม พ.ศ. 2563 จำนวน 1,913 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบวัดความรู้ และทักษะ เกี่ยวกับการเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลง และสัญญาณเตือนของผู้ป่วย และแบบวัดความพึงพอใจของพยาบาลในการใช้ NEWS score วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงอนุมาน One group paired t-test ทดสอบความแตกต่างของความรู้และทักษะการเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลง และสัญญาณเตือนของผู้ป่วย ก่อนและหลังการได้รับการอบรม
ผลการวิจัย พบว่าหลังการอบรมกลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ยคะแนนความรู้ และทักษะการปฏิบัติในการประเมินผู้ป่วยโดยใช้ NEWS score ในการเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วย สูงขึ้นกว่าก่อนเข้าอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p < .05 (t = -3.76 และ t = -3.44 ตามลำดับ) และพบว่าหลังอบรมกลุ่มตัวอย่างมีผลการประเมินความพึงพอใจต่อการใช้ NEWS score ในการเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยอยู่ในระดับมาก ผู้ป่วยที่ใช้ NEWS score ในการเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลง และสัญญาณเตือนเข้าสู่ภาวะวิกฤต มีอัตราการใส่ท่อช่วยหายใจร้อยละ 1.92 อัตราการช่วยฟื้นคืนชีพที่หน่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินร้อยละ 0.47 และอัตราการเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมง ร้อยละ 1.92
การใช้แนวทางการประเมินผู้ป่วยโดยใช้สัญญาณเตือนภาวะวิกฤต ช่วยส่งเสริมให้พยาบาลสามารถคัดกรองประเมินอาการเปลี่ยนแปลง และตัดสินใจรายงานแพทย์เพื่อให้การดูแลรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ผู้ป่วยจะเกิดภาวะวิกฤต
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Cardiovascular Diseases [Internet]. Switzerland: World Health Organization; c2020. Available from: http://www.who.int/topics/cardiovascular_diseases/en/.
ประเวศ วสี. สุนทรียสนธนาวิกฤตความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์.นนทบุรี: เดือนตุลา; 2552.
Miller S, Gaffney M, Michna L. Use of Modified Early Warning Scores by a Rapid Response Team for the Purpose of Code Reduction in the Non-ICU Patient Population: 123. Journal of Hospital Medicine. 2009;4:85-6.
Gardner-Thorpe J, Love N, Wrightson J, Walsh S, Keeling N. The value of Modified Early Warning Score (MEWS) in surgical in-patients: a prospective observational study. Ann R Coll Surg Engl. 2006;88(6):571-5.
Institute for Healthcare Improvement. Early warning systems: score cards that save Lives [Internet]. Boston: Institute for Healthcare Improvement; c2020. Available from: http://www.ihi.org/resources/Pages/ImprovementStories/EarlyWarningSystemsScorecardsThatSaveLives.aspx
โรงพยาบาลนครพิงค์. สถิติหน่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลนครพิงค์: รายงานสถิติประจำปี. เชียงใหม่: โรงพยาบาลนครพิงค์; 2561.
Bloom B, Engelhart M, Furst E, Hill W, Krathwohl D. Taxonomy of educational objectives: The classification of educational goals. Handbook I: Cognitive domain. 2nd ed. NY: David McKay; 1956.
อนุวัฒน์ ศุภชุติกุล, จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์. คุณภาพของระบบสุขภาพ. นนทบุรี : โครงการสำนักพิมพ์ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข; 2543.
Chow SC, Shao J, Wang, H. Sample size calculations in clinical research. 2nd ed. FL: Chapman & Hall/ CRC; 2008.
สมศรี ซื่อต่อวงศ์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการใช้ SOS score เพื่อเป็นสัญญาณเตือนก่อนเขา้สู่ภาวะวิกฤตของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลชลบุรี. [internet]. 2561. [เข้าถึงเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563]. เข้าถึงได้จาก http://www.cbh.moph.go.th/app/intranet/files/km/1507187169_
ภัทระ แสนไชยสุริยา. รายงานผลการศึกษาการเผยแพร่ความรู้โรคธานลัสซีเมียผ่านสื่อ internet = Web-based interactive media for disseminating knowledge of thalassemia [รายงานวิจัย]. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2555.
จิณพิชญ์ชา มะมม. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน : เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะสำหรับนักศึกษาพยาบาล.วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2557:22(2);285-93.
ดวงกมล หน่อแก้ว, ปาจรีย์ ตรีนนท์, ณัฐธยาน์ ชาบัวคำ, นวพล แก่นบุปผา, สำเร็จ เทียนทอง และ ชนุกร แก้วมณี. ผลของโปรแกรมการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง เพื่อพัฒนาความรู้ และทักษะการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน สำหรับนักศึกษาพยาบาล. วารสารเครือข่ายวิทยาลัยพยาบาลและการสาธารณสุขภาคใต้. 2561:5(3);85-95.
สายฝน สระทองพูน. ผลการใช้ MEWS score เพื่อเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วย Emergency และ Urgency ในห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลลำปาง. [อินเทอร์เน็ต]. ลำปาง: โรงพยาบาลลำปาง; 260. เข้าถึงได้จาก: http://cso.rh1.go.th/bestP2560/index.html.
รัชนีย์ พิมพ์ใจชน. ผลของการใช้รูปแบบเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงและสัญญาณเตือนของผู้ป่วยต่อการย้ายเข้าหอผู้ป่วยวิกฤตโดยไม่ได้วางแผน [อินเทอร์เน็ต]. ชลบุรี: กลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยศัลยกรรม โรงพยาบาลศูนย์ชลบุรี; 2557. เข้าถึงได้จาก: http://www.cbh.moph.go.th/app/intranet/files/km/1507186947_8.
พุทธชาติ สมณา. ผลของการใช้ระบบ Modified Early Warning Scores (MEWS) เพื่อค้นหาและจัดการกับภาวะวิกฤตในผู้ป่วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย3 โรงพยาบาล มหาราชนครเชียงใหม่ [อินเทอร์เน็ต]; 2556. เข้าถึงได้จาก: www.med.cmu.ac.th/hospital/nis/downloads/wp-content/uploads/.../2.MEWS.pdf
ลดาวัลย์ ฤทธิ์กล้า. ผลของการใช้แนวทางการประเมินผู้ป่วยโดยใช้สัญญาณเตือนภาวะวิกฤตต่อการย้ายเข้าหอผู้ป่วยวิกฤตโดยไม่ได้วางแผนและอัตราการเสียชีวิต ในหอผู้ป่วยอายุรกรรม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ [อินเทอร์เน็ต]. ปทุมธานี: โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียติ; 2557. เข้าถึงได้จาก: https://www.hospital.tu.ac.th/km/admin/new/190418_142806.pdf.
Çıldır E, Bulut M, Akalın H, Kocabaş E, Ocakoğlu G, Aydın ŞA. Evaluation of the modified MEDS, MEWS score and Charlson comorbidity index in patients with community acquired sepsis in the emergency department. Intern Emerg Med. 2013;8(3):255-60.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของโรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องบทความในวารสารวิชาการและวิจัยเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลนครพิงค์ และบุคลากรท่านอื่นๆในโรงพยาบาลฯ ความรับผิดชอบเกี่ยวกับบทความแต่ละเรื่องผู้เขียนจะรับผิดชอบของตนเองแต่ละท่าน
