ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความกลมเกลียวในชุมชนและมลทินทางสังคมเกี่ยวกับ ยาเสพติดต่อการเสพยาบ้าของผู้เข้ารับการบำบัดในระบบบังคับบำบัด เขตภาคใต้ ประเทศไทย
คำสำคัญ:
การรับรู้ความกลมเกลียวในชุมชน มลทินทางสังคมเกี่ยวกับยาเสพติด ยาบ้าบทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยแบบ Cross-sectional analytic study มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความกลมเกลียวในชุมชนและมลทินทางสังคมเกี่ยวกับยาเสพติดต่อการเสพยาบ้า กลุ่มตัวอย่างคือผู้เข้ารับการบำบัดการติดยาเสพติด จำนวน 374 คน ที่เข้ารับการบำบัด ณ ศูนย์บำบัดยาเสพติดแบบบังคับบำบัด เขตภาคใต้ ประเทศไทย ซึ่งคัดเลือกแบบ Consecutive sampling เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ Binary logistic regression ผลการวิจัย พบว่าผู้เข้าบำบัดส่วนใหญ่เป็นเพศชาย (ร้อยละ 81.3) มีอายุเฉลี่ย 26.2 ปี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาขึ้นไป (ร้อยละ 51.3) ว่างงาน (ร้อยละ32.6) และมีประวัติอาชญากรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด (ร้อยละ 47.1) มีคนในครอบครัว (ร้อยละ 57.2) และเพื่อน (ร้อยละ 57.5) ใช้ยาเสพติด ส่วนใหญ่เสพยาบ้า ร้อยละ 70.6 และเสพยาเสพติดชนิดอื่น ร้อยละ 29.4 จากการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความกลมเกลียวในชุมชนและมลทินทางสังคมเกี่ยวกับยาเสพติดต่อการเสพยาบ้า เมื่อควบคุมตัวแปรกวนพบว่าการรับรู้ความกลมเกลียวในชุมชนในระดับปานกลางและระดับสูงมีความสัมพันธ์กับการเสพยาบ้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (aOR=0.50, 95%CI:0.27,0.92; aOR=0.51,95%CI:0.28,0.95 ตามลำดับ) และมลทินทางสังคมเกี่ยวกับยาเสพติดในระดับปานกลาง และระดับสูงมีความสัมพันธ์กับการเสพยาบ้าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเช่นกัน (aOR=1.87, 95%CI:1.04,3.38; aOR=2.22,95%CI:1.21,4.07 ตามลำดับ) สรุปผลการศึกษา จะเห็นได้ว่าปัจจัยสิ่งแวดล้อมด้านสังคมมีอิทธิพลต่อการเสพยาบ้า โดยการรับรู้ความกลมเกลียวในชุมชนมีผลต่อการลดโอกาสการเสพยาบ้า ส่วนมลทินทางสังคมเกี่ยวกับยาเสพติดนั้นมีผลต่อการเพิ่มโอกาสการเสพยาบ้า ดังนั้น การกำหนดมาตรการหรือสิ่งแทรกแซง (intervention)ในการป้องกันการกลับมาเสพซ้ำหรือการป้องกันไม่ให้มีนักเสพหน้าใหม่เกิดขึ้นควรนำปัจจัยดังกล่าวมาพิจารณาร่วมด้วย เช่น การลดมลทินทางสังคมเกี่ยวกับยาเสพติดของคนในชุมชน หรือการส่งเสริมความกลมเกลียวกันและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในชุมชน เป็นต้