การปรากฎร่วมกันของโปรตีน RUNX1 และ NFAT2 ในเนื้องอกสมองกลิโอมาในมนุษย์

ผู้แต่ง

  • สมใจ อภิเศวตกานต์
  • วรัญญา ฐิติธรรมจริยา
  • กานต์ แสงไพโรจน
  • กุลธิดา ชัยธีระยานนท์

คำสำคัญ:

glioma, RUNX1, NFAT2, brain tumor, transcription factor, double immunofluorescence

บทคัดย่อ

กลิโอมา (Gliomas) เป็นเนื้องอกสมองที่เกิดจาก glial cells จัดเป็นเนื้องอกในสมองที่พบมากที่สุด ในผู้ใหญ่ มีอาการรุนแรงอย่างมาก แต่แทบไม่พบการกระจายออกนอกเนื้อสมอง องค์การอนามัยโลก (WHO) จำแนกเนื้องอกสมองกลิโอมาตามความรุนแรงเป็นเกรด I ถึง IV โดยแบ่งตามลักษณะทางเนื้อเยื่อที่ปรากฎ เป็นหลัก ในปี 2016 WHO ได้ปรับปรุงการจำแนกเกรดของเนื้องอกทางระบบประสาทส่วนกลางขึ้นใหม่ โดยได้เพิ่มเทคนิคทาง molecular genetic ร่วมด้วย ทำให้มีความเห็นพ้องกันในเนื้องอกสมองแบบ diffuse-type มากขึ้น เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การเจริญอย่างรวดเร็วของเนื้องอก คือ การเกิดหลอดเลือด (angiogenesis) กระบวนการนี้ทำงานร่วมกับโปรตีน transcription factors มากมาย ในการศึกษานี้ผู้วิจัยได้ตรวจสอบ การแสดงออกของ transcription factors จำานวน 2 ชนิด คือ RUNX1 และ NFAT2 ในเนื้องอกสมองกลิโอมา เกรด I-IV ด้วยเทคนิคการย้อมแบบ double immunofluorescence ผลการศึกษาสามารถยืนยันได้ว่ามีการ แสดงออกของ RUNX1 และ NFAT2 ในไซโตปลาสซึมของกลิโอมาอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับเนื้อเยื่อปกติ ของสมองมนุษย์ (p<0.05 และ p<0.01) และพบการปรากฎร่วมกันของ RUNX1 และ NFAT2 ในไซโตปลาสซึม ของเซลล์เดียวกัน โดยพบความเข้มของ fluorescent มากขึ้นเป็นลำดับในเนื้อเยื่อกลิโอมา โดยเฉพาะเนื้อเยื่อ เกรด II ถึง IV ผลของ immunoreactivity จากการย้อมด้วย GFAP บ่งบอกว่าเนื้อเยื่อกลิโอมานี้เป็น glial cells ชนิด astrocytes ดังนั้น การแสดงออกของ RUNX1 และ NFAT2 อาจบอกถึงหน้าที่ของโปรตีนทั้งสองในการ ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของการเกิดหลอดเลือดในผู้ป่วยเนื้องอกสมองกลิโอมา

เอกสารอ้างอิง

--

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-08-29

รูปแบบการอ้างอิง

1.
อภิเศวตกานต์ ส, ฐิติธรรมจริยา ว, แสงไพโรจน ก, ชัยธีระยานนท์ ก. การปรากฎร่วมกันของโปรตีน RUNX1 และ NFAT2 ในเนื้องอกสมองกลิโอมาในมนุษย์. J Med Health Sci [อินเทอร์เน็ต]. 29 สิงหาคม 2018 [อ้างถึง 12 ธันวาคม 2025];25(2):67-81. available at: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jmhs/article/view/142904

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย