การพัฒนาคุณภาพการคัดกรอง การกำกับดูแล รักษาผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน
คำสำคัญ:
การพัฒนา, ผู้ป่วยวัณโรครายใหม่, การมีส่วนร่วมบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงปฏิบัติการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพัฒนารูปแบบการคัดกรอง การกำกับดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด ดำเนินการ 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 การวางแผน ระยะที่ 2 การปฏิบัติการ ระยะที่ 3 การสังเกตและการสะท้อนกลับ โดยกลุ่มตัวอย่างระยะที่ 1 และ 2 เป็นผู้มีส่วนร่วมการดำเนินงานวัณโรค จำนวน 15 คน เลือกแบบเฉพาะเจาะจง กลุ่มตัวอย่างระยะที่ 3 คือ ผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ คำนวณขนาดตัวอย่างและสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีสุ่มอย่างง่าย และผู้ดูแลผู้ป่วยวัณโรค ใช้การเลือกแบบเจาะจง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มผู้ดูแลจำนวน 26 คน ได้รับรูปแบบที่พัฒนาขึ้น และประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วยวัณโรคหลังการใช้รูปแบบจำนวน 26 คน ระยะเวลาดำเนินการ 24 สัปดาห์ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม และตอบแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิเคราะห์เนื้อหา และเปรียบเทียบผลต่างค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนและหลังใช้รูปแบบด้วยสถิติ Paired t-test ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบประกอบด้วย 1) การให้ความรู้และสร้างความตระหนัก 2) การมีส่วนร่วมของชุมชน 3) การให้การสนับสนุนผู้ป่วย 4) การส่งเสริมสุขอนามัยและโภชนาการ และ 5) การให้คุณค่า หลังการใช้รูปแบบพบว่า กลุ่มทดลองมีผลต่างคะแนนเฉลี่ยทุกด้านเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ดังนี้ ผู้ดูแลมีความรู้ในการดูแลผู้ป่วยวัณโรคสูงขึ้น 9.38 คะแนน (95%CI 8.91ถึง 9.85, P-value<0.001) ทัศนคติในการดูแลผู้ป่วยวัณโรคเพิ่มขึ้น 27.07 คะแนน (95%CI=25.88-28.26, P-value<0.001) การมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยวัณโรคเพิ่มขึ้น 17.69 คะแนน (95%CI=17.18-18.20, P-value<0.001) และความพึงพอใจของผู้ป่วยวัณโรคเพิ่มขึ้น 32.97 คะแนน (95%CI=31.61-34.31 P-value<0.001) รูปแบบที่พัฒนาขึ้นสามารถเพิ่มศักยภาพในการคัดกรอง การกำกับดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Global tuberculosis report 2021. Geneva: World Health Organization; 2021.
สำนักวัณโรค. แนวทางการควบคุมวัณโรคประเทศไทย พ.ศ. 2561 (National Tuberculosis control Programme Guidelines, Thailand 2018). กรุงเทพฯ: สำนักวัณโรค กรมควบคุมโรค; 2561.
Gordis L. Epidemiology. 4th ed. Philadelphia: Elsevier/Saunders; 2009.
กองวัณโรค. รายงานสถานการณ์และการเฝ้าระวังวัณโรคประเทศไทย. กรุงเทพฯ: กระทรวงสาธารณสุข; 2564.
Getahun H, Matteelli A, Chaisson RE, Raviglione M. Latent Mycobacterium tuberculosis infection. N Engl J Med 2015; 372: 2127-35.
Kiazyk S, Ball T. Latent tuberculosis infection: an overview. Can Commun Dis Rep 2017; 43: 62-6.
กระทรวงสาธารณสุข. ผลการดำเนินงานด้านการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงจากการตรวจเอกซ์เรย์ ปี 2564. กรุงเทพฯ: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2564.
โรงพยาบาลหนองพอก. รายงานผู้ป่วยสถานการณ์วัณโรครายใหม่ 2562-2565. ร้อยเอ็ด: โรงพยาบาลหนองพอก; 2566.
Kemmis S, McTaggart R. The Action research planner. Geelong: Deakin University, 1988.
Yamane T. Statistics: An introductory analysis (2nd Ed.). New York: Harper and Row, 1967.
อภิชน จีนเสวก. การพัฒนารูปแบบการจัดการวัณโรคโรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี. วารสารวิชาการสาธารณสุข 2564; 30(4): 679-89.
สำเริง ซึมรัมย์, จิระภา ศิริวัฒนเมธานนท์, สมศักดิ์ ศรีภักดี. การพัฒนารูปแบบการดำเนินงานป้องกันและควบคุมวัณโรคโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม 2558; 12(1): 139-49.
อุไร โชควรกุล. การพัฒนารูปแบบการดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรคอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม 2566; 20(1): 42-55.
เอกพันธ์ คําภีระ, สุมาลี เลิศมัลลิกาพร, อะเคื้อ อุณหเลขกะ. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อวัณโรคปอดในชุมชน. พยาบาลสาร 2564; 48(1): 174-86.
อัญชลี มงกุฎทอง, เชิดพงษ์ ทองสุข, แดนสรวง วรรณวงษ์สอน. การพัฒนารูปแบบการควบคุมโรควัณโรคปอดด้วยการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน 2565; 53(8): 109-18.
พชรพร ครองยุทธ, ปัทมา ล้อพงค์พานิชย์, เจษฎา สุราวรรณ์, จักรกริช ไชยทองศรี, กชมน นรปติ. การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการผู้ป่วยวัณโรคปอดรายใหม่จังหวัดขอนแก่น. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน 2565; 8(1): 15-27.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่7 จังหวัดขอนแก่น

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ความรับผิดชอบ
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น ถือเป็นผลงานทางวิชาการหรือวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของวารสารสำนักงาน ป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น หรือ ของกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ลิขสิทธ์บทความ
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์จะถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานป้องกันตวบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น