ความสัมพันธ์ของภาวะความเครียดกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน ของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในพื้นที่รับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลน้ำพอง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
คำสำคัญ:
ความเครียด, โรคเบาหวานชนิดที่ 2บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะความเครียดกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในพื้นที่ตำบลน้ำพอง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น รูปแบบการวิจัย เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์ภาคตัดขวาง กลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในพื้นที่ตำบลน้ำพอง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 110 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสัมภาษณ์ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 68.18 อายุเฉลี่ย 66.82 ปี (S.D. = 8.71) สถานภาพสมรส ร้อยละ 62.73 จบระดับประถมศึกษา ร้อยละ 89.09 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ร้อยละ 31.82 ค่ามัธยฐานของรายได้ 6,425.45 บาท ระยะเวลาในการป่วยเป็นโรคเบาหวานเฉลี่ย 10.71 ปี (S.D. = 6.59) ระดับน้ำตาลในเลือด 3 เดือนย้อนหลังสูงสุดคือเดือนที่ 3 เฉลี่ย 152.09 mg% (S.D. = 64.34 mg%) และมีภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน ร้อยละ 66.36 ระดับความเครียดอยู่ในระดับเกณฑ์ปกติ ร้อยละ 46.36 ระดับสูงกว่าปกติเล็กน้อย ร้อยละ 43.64 เครียดอยู่ในระดับสูงกว่าปกติมาก ร้อยละ 5.45 เครียดอยู่ในระดับสูงกว่าปกติปานกลาง ร้อยละ 3.64 และเครียดในระดับต่ำ ร้อยละ 0.91 โดยพบความเครียดมีความสัมพันธ์น้อย กับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (r= -0.22, p-value = 0.01)
จากผลความสัมพันธ์ระหว่างภาวะความเครียดกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ควรมีการคัดกรองภาวะความเครียดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ทำให้พื้นที่สามารถวางแผนดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวาน และป้องกันการเกิดผลกระทบเชิงลบจากภาวะความเครียดสะสม ตลอดจนช่วยลดความรุนแรงของปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาวต่อไป
References
Global Health Metrics. Global burden of 369 diseases and injuries in 204 countries and territories, 1990–2019: a systematic analysis for the Global Burden of Disease Study 2019. Lancet 2020; 396(10258): 1204-22.
สมพร รุ่งเรืองกลกิจ, ยุพา ถาวรพิทักษ์, วราลักษณ์ กิตติวัฒน์ไพศาล, อิงคฏา โคตรนารา, เนตรชนก แก้วจันทา. ความชุกและปัจจัยทำนายภาวะซึมเศร้าในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย 2557; 59(3): 287-98.
ชลวิภา สุลักขณานุรักษ์, วโรดม ใจสนุก, เบญจา มุกตพันธุ์. ความสัมพันธ์ของภาวะซึมเศร้าและความเครียดกับระดับน้ำตาลสะสมในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับการรักษาที่คลินิกเบาหวานของโรงพยาบาลน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น. ศรีนครินทร์เวชสาร 2559; 31(1): 34 - 45.
ชนัญช์ แจ่มจิตรตรง, รัตนา สำโรงทอง. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ไม่พึ่งอินซูลิน (ชนิดที่ 2) ในชุมชนชนบทของประเทศไทย. วารสารสหเวชศาสตร์ 2562; 4(1): 54-66.
ศูนย์เฝ้าระวังป้องกันการฆ่าตัวตาย โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์. รายงานการเฝ้าระวังการพยายามฆ่าตัวตาย รง 506S. โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์. 2563.
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการใช้เครื่องมือด้านสุขภาพจิตสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในโรงพยาบาลชุมชน (คลินิกโรคเรื้อรัง). พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; 2558.
ศิริชัย กาญจนวาสี. สถิติประยุกต์สำหรับการวิจัย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2552.
Cronbach LJ. Educational Psychology. New York: Harcourt Brace And World, Inc.;1963.
Hinkle DE, William W, Stephen GJ. Applied Statistics for the Behavior Sciences. 4th. New York: Houghton Mifflin; 1998.
ชนิดาวดี สายืน, ณิชพันธุ์ระวี เพ็งพล, พรรณงาม วรรณพฤกษ์, กิรณานันท์ สนธิธรรม, เครือวัลย์ ดิษเจริญ, ณัฐณณร์ หาศิริ และคณะ. ความเครียดและการเผชิญความเครียดในผู้ป่วยโรคเรื้อรังชุมชนแห่งหนึ่งใน จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารโรงพยาบาลสกลนคร 2563; 23(3): 67 – 76.
ดวงฤทัย ไพรบึง, พัชราพร เกิดมงคล, ขวัญใจ อำนาจสัตย์ซื่อ, ทัศนีย์ รวิวรกุล. ผลของโปรแกรมส่งเสริมการเผชิญความเครียดในผู้สูงอายุโรคเบาหวาน. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล 2562; 35(2): 153-61.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่7 จังหวัดขอนแก่น
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ความรับผิดชอบ
บทความที่ลงพิมพ์ในวารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น ถือเป็นผลงานทางวิชาการหรือวิจัย และวิเคราะห์ตลอดจนเป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่ใช่ความเห็นของวารสารสำนักงาน ป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น หรือ ของกองบรรณาธิการแต่ประการใด ผู้เขียนต้องรับผิดชอบต่อบทความของตนเอง
ลิขสิทธ์บทความ
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์จะถือเป็นลิขสิทธิ์ของสำนักงานป้องกันตวบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น