7.การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเอง ด้านการบริโภคอาหาร ของหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก จังหวัดอุตรดิตถ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และการรับรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารและยาของหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจาง 2) พัฒนารูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองด้านบริโภคอาหาร และ 3) ประเมินผลรูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองด้านบริโภคอาหาร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ศึกษาใน 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจาง จำนวน 136 คน ในระยะที่ 2 บุคลากรสาธารณสุข จำนวน 20 คน ระยะที่ 3 หญิงตั้งครรภ์ จำนวน 30 คน โดยสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามความรู้ การรับรู้และพฤติกรรมการบริโภคอาหารและยาของหญิงตั้งครรภ์ และรูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองด้านบริโภคอาหารที่พัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน และ Paired Sample t-test ผลการวิจัย พบว่า หญิงตั้งครรภ์มีความรู้ในระดับปานกลาง ร้อยละ 60.2 การรับรู้ประโยชน์ของการป้องกัน อยู่ในระดับดีมาก ร้อยละ 58.8 มีพฤติกรรมการดูแลตนเองด้านบริโภคอาหารอยู่ในระดับดี ร้อยละ75.7 และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองด้านบริโภคอาหาร ได้แก่ การรับรู้ประโยชน์ของการป้องกัน (r=.213) และสามารถทำนายพฤติกรรมการดูแลตนเองด้านบริโภคอาหารได้ร้อยละ 5.2 หลังการใช้รูปแบบฯ พบว่า ค่าเฉลี่ยความรู้ พฤติกรรมบริโภคอาหาร และค่าฮีมาโตคริต ในหญิงตั้งครรภ์สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 ดังนั้นสามารถนำรูปแบบการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองด้านการบริโภคอาหารนี้ ไปประยุกต์ใช้ในหญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงจากการตั้งครรภ์อื่นๆได้ต่อไป
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อลิขสิทธิ์วารสาร
บทความหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฏในวารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สคร. 2 พิษณุโลก เป็นวรรณกรรมของผู้เขียน กองบรรณาธิการวิชาการ และ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลกไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยทั้งหมดหรือร่วมรับผืิดชอบใดๆ หากพบว่าบทความของท่านมีการคัดลอกผลงานทางวิชาการ (plagiarism) มากกว่า 25 เปอร์เซ็นวารสารขอปฏิเสธการตีพิมพ์เผยแพร่ทุกกรณี วิธีตรวจสอบการคัดลอกผลงานทางวิชาการ (plagiarism)
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Worldwide prevalence of anemia 2016-2019, WHO global database on anemia [Internet]. 2021 [cited 2025 Feb 15]. Available from: https://www.who.int/data/gho/data/themes/topics/anaemia_in_women_and_children
สำนักอนามัยเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. นโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยเจริญพันธุ์แห่งชาติฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560-2569) ว่าด้วยการส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโตที่มีคุณภาพ [อินเทอร์เน็ต] . 2567 [เข้าถึงเมื่อ 15 ก.พ. 2568] ; เข้าถึงได้จาก : http://plan.psru.ac.th/ index.php?module=policy&id=225
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ กระทรวงสาธารณสุข. รายงานการตรวจราชการและนิเทศงาน
กรณีปกติ จังหวัดอุตรดิตถ์. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ ; 2568.
World Health Organization. Iron deficiency anemia assessment prevention and control : a guide
for programme managers [Internet]. 2001 [cited 2025 Jan 10]. Available from : https://www.who.int/nutrition/publications /micronutrients /anemia iron deficiency/WHO NHD_01.3/en/
ผาสุก กัลย์จารึก. ภาวะโลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์ที่คลอดในโรงพยาบาลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารกระทรวงสาธารณสุข 2560 ; 27(1) : 22-33.
บังอร ศุภวิทิตพัฒนา, ปิยะภรณ์ ประสิทธิ์วัฒนเสรี. การพยาบาลและการผดุงครรภ์สตรีที่มีภาวะเสี่ยงและ ภาวะแทรกซ้อน. เชียงใหม่: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2562. หน้า 352-363.
ดวงกมล ปิ่นเฉลียว. พยาบาลกับการจัดการภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในหญิงตั้งครรภ์. วารสาร พยาบาลตำรวจ 2560;9(2):195-202.
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือแนวทางการควบคุมและป้องกันโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก. นนทบุรี: สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข; 2556.
Namazi A, Alizadeh S. Health knowledge of pregnant women on anemia and its complication in pregnancy. Journal of Holistic Nursing and Midwifery 2016;26(2):98-106.
Seaharattanapatum B, Sinsuksai N, Phumonsakul S, Chansatitporn N. Effectiveness of balanced diet-iron supplement program among pregnant women with anemia: A quasi-experimental study. Pacific Rim International Journal of Nursing Research 2021;25(4):653-665.
Becker MH, Maiman LA. Sociobehavioral determinants of compliance with health and medical care recommendations. Medical Care [Internet]. 1975 [cited 2025 Jan 12];13(1):10-24. Available from: http://www.ncbi.nlm.gov/pubmed/1089182
อังศินันท์ อินทรกำแหง. ความรอบรู้ด้านสุขภาพ การวัดและพัฒนา. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : สุขุมวิทย์การพิมพ์ ; 2560.
บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น ; 2560.
Orem D. Nursing Concept of practice 6th ed. St. Louis : Mosby ; 2001.
Cohen J. Statistical power analysis for the behavior sciences 2nd ed. Hillsdale NJ : Lawrence Erlbaum ; 1988.
ปวินตรา มานาดี, เกสรา ศรีพิชญาการ และยุพิน เพียรมงคล. การรับรู้ความเสี่ยงการรับรู้อุปสรรค และพฤติกรรมการบริโภคอาหารปลอดภัยในสตรีตั้งครรภ์. วารสารการพยาบาล และการดูแลสุขภาพ 2561 ; 36(2) : 176-184.
ศิรินภา แก้วพวง, วรรณี เดียวอิศเรศ, วรรณทนา ศุภสีมานน. อิทธิพลของการรับรู้ภาวะเสี่ยงของการตั้งครรภ์ ความรู้ และทัศนคติต่อพฤตกรรมการเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ของสตรีตั้งครรภ์. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา 2561;26(2):57-66.
ธีราภรณ์ บุณยประภาพันธ์, ศิริวรรณ แสงอินทร์ และสุพิศ ศิริอรุณรัตน์. ผลของโปรแกรมการสนับสนุน และให้ความรู้ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองและระดับฮีมาโตคริตในหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 2561; 26(4) : 40-50.
อัจฉราวดี มั่งจิตร. ผลของโปรแกรมการสนับสนุนและให้ความรู้ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในโรงพยาบาลแก่งคอย จังหวัดสระบุรี [อินเทอร์เน็ต]. 2567 [เข้าถึงเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2568]; เข้าถึงได้จาก: http://www.kkhos.com/kkhos/data_office_academic/adcharavadee