4.การพัฒนารูปแบบการคัดกรองและวินิจฉัยวัณโรคปอด จังหวัดลำปาง

Main Article Content

จันทร์ชนก กิตติจันทโรภาส
ธีรารัตน์ บุญกุณะ

บทคัดย่อ

ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาจังหวัดลำปางมีอัตราป่วยวัณโรคและอัตราความครอบคลุมการรักษาต่ำกว่าเป้าหมายที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดประกอบกับส่วนใหญ่ใช้การตรวจเสมหะด้วยวิธีการย้อมสีทนกรด (acid-fast bacilli; AFB) มีข้อจำกัดด้านความไว (sensitivity) เพียง 30-70% จึงจำเป็นต้องพัฒนารูปแบบการคัดกรองและวินิจฉัยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การวิจัยและพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการคัดกรองและวินิจฉัยวัณโรคปอดของจังหวัดลำปาง และประเมินผลลัพธ์การใช้รูปแบบที่พัฒนาขึ้น เป็นการวิจัยและพัฒนาโดยประยุกต์ใช้วงจร PAOR ดำเนินการใน 3 ระยะ กลุ่มตัวอย่างเป็นบุคลากรจากโรงพยาบาลชุมชน 12 แห่ง จำนวน 24 คน และข้อมูลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่ผ่านกระบวนการคัดกรองช่วงก่อนและหลังการใช้รูปแบบใหม่ ผลการศึกษาพบว่ารูปแบบที่พัฒนาขึ้นเน้นการใช้เทคนิค LAMP ร่วมกับ AFB อย่างเป็นระบบ การตรวจด้วยเทคนิค AFB หลังการใช้รูปแบบใหม่มีผู้ป่วยผลบวกลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
(p = .011) บุคลากรมีความพึงพอใจต่อรูปแบบใหม่ในระดับมาก (x̄ = 4.17) รูปแบบการคัดกรองและวินิจฉัยวัณโรคปอดที่พัฒนาขึ้นสามารถนำไปใช้ได้จริงและได้รับความพึงพอใจจากบุคลากร แต่ควรมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่องเพื่อประเมินประสิทธิภาพในระยะยาว

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
กิตติจันทโรภาส จ., & บุญกุณะ ธ. . (2025). 4.การพัฒนารูปแบบการคัดกรองและวินิจฉัยวัณโรคปอด จังหวัดลำปาง. วารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก, 12(3), 49–63. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/dpcphs/article/view/281947
ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

World Health Organization. Global tuberculosis report 2023 [Internet]. Geneva: WHO; 2023 [cited 2024 Jun 15]. Available from: https://iris.who.int/bitstream/handle/10665/373828/9789240083851-eng.pdf?sequence=1

กองวัณโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการควบคุมวัณโรคประเทศไทย พ.ศ. 2561 [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: กองวัณโรค; 2561 [เข้าถึงเมื่อ 15 มิถุนายน 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.tbthailand.org/download/Manual/NTP2018.pdf

กองวัณโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แผนปฏิบัติการระดับชาติ ด้านการต่อต้านวัณโรค ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 - 2570) [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: กองวัณโรค; 2566 [เข้าถึงเมื่อ 15 มิถุนายน 2567]. เข้าถึงได้จาก: https://www.tbthailand.org/download/Manual/AW_thai%20แผนปฏิบัติการระดับชาติ.pdf

Lampang Provincial Health Office. Public Health Performance Evaluation Fiscal Year 2024. Lampang: Lampang Provincial Health Office; 2024.

วิจิตร์ โทนศิริ. ความไวและความจำเพาะในการทดสอบ Sputum AFB smear ของห้องปฏิบัติการผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี. วารสารศูนย์การศึกษาแพทยศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า. 2559; 33(2):110-117

Pham HT, Ng TT, Garfein RS, Um T, Zhang Y, Desai S, et al. Performance of the TB-LAMP diagnostic assay in reference laboratories: Results from a multicentre study. Int J Infect Dis 2018; 68: 44-9. doi: 10.1016/j.ijid.2017.12.026

Lin JJ, Xi XH, Xia L, Tan YJ, Chen Y, Wu Q, et al. Diagnostic accuracy of loop-mediated isothermal amplification for pulmonary tuberculosis in China. Front Trop Dis 2022; 3: 1046948. doi: 10.3389/fitd.2022.1046948

ศราวุธ ตุ่นคำแดง. ความถูกต้องของการตรวจหาเชื้อ Mycobacterium tuberculosis ในเสมหะด้วยเทคนิค Loop mediated isothermal amplification (LAMP) (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2562.

ธงชัย แก้วพินิจ, สมชาย สันติวัฒนากุล, โกสุม จันทร์ศิริ. เทคนิค Loop-mediated Isothermal Amplification (LAMP) สำหรับตรวจเชื้อวัณโรค. วารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ. 2556; 20(1):13-20.

สันติ์ เกตดี, ณัฐนันทพร ดาเหล็ก, ศุภัชญา ปานสวัสดิ์, เมธาวี มะธิปะโน, ประภาพรรณ ศรีมันตะ, นิภาพร ภักดีเจริญกุล, และคณะ.การนำใช้เทคนิคทางอณูชีววิทยาวิธี TB-LAMP สำหรับตรวจวินิจฉัยและค้นหาผู้ป่วยวัณโรคในกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อวัณโรค โรงพยาบาลน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น. วารสารอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน. 2568;10(3):231-240.

Kemmis S, McTaggart R, Nixon R. The Action Research Planner: doing critical participatory action research. Singapore: Springer; 2014.

อธิชา มหาโยธา, สุทธิกานต์ สมบัติธีระ, นุชจรี บุญพุด, ทนงศักดิ์ เศษอ่อน, วัจนา ช่างทอง, จณิศรา ฤดีอเนกสิน, และคณะ.การพัฒนาหน่วยตรวจคัดกรองวัณโรคระดับชุมชนด้วยวิธี TB-LAMP สำหรับการค้นหาผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ เขตสุขภาพที่ 7: นวัตกรรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สู่นวัตกรรมการบริการสุขภาพในระดับชุมชน. วารสารวิชาการสาธารณสุข. 2566;32 (ฉบับเพิ่มเติม 1): S113-S124.