7.ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของประชาชน ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันและควบคุม
โรคไข้เลือดออกของประชาชน ประชากร คือ ประชาชนซึ่งเป็นตัวแทนของหลังคาเรือน มีอายุ 20 ปีขึ้นไป และอาศัยอยู่ในพื้นที่จริง จำนวน 2,399 คน โดยใช้สูตรการคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างของ Daniel เท่ากับ 303 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ประกอบด้วย 5 ส่วน ได้แก่ คุณลักษณะส่วนบุคคล ปัจจัยนำ ปัจจัยเอื้อ ปัจจัยเสริม และพฤติกรรมการป้องกันและควบคุม
โรคไข้เลือดออก แบบสอบถามผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน และนำไปทดลองใช้เพื่อวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่าครอนบาค เท่ากับ 0.907 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ไคสแควร์ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอนผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของประชาชนประกอบด้วย ความพอเพียงของทรัพยากรการป้องกันโรค (P-value = 0.002) การมีทักษะในการใช้ทรัพยากรการป้องกันโรค (P-value <0.001) การได้รับการสนับสนุนหรือกระตุ้นเตือนในการป้องกันโรค
(P-value = 0.020) ตามลำดับ สามารถทำนายได้ร้อยละ 34.6 (R2 = 0.346) ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทั้งภาครัฐและเอกชนควรให้การสนับสนุนวัสดุและอุปกรณ์ในการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก
อีกทั้งควรหาแนวทางการฝึกอบรมให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อเสริมทักษะในการป้องกันและควบคุม
โรคไข้เลือดออกให้ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อลิขสิทธิ์วารสาร
บทความหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฏในวารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สคร. 2 พิษณุโลก เป็นวรรณกรรมของผู้เขียน กองบรรณาธิการวิชาการ และ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลกไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยทั้งหมดหรือร่วมรับผืิดชอบใดๆ หากพบว่าบทความของท่านมีการคัดลอกผลงานทางวิชาการ (plagiarism) มากกว่า 25 เปอร์เซ็นวารสารขอปฏิเสธการตีพิมพ์เผยแพร่ทุกกรณี วิธีตรวจสอบการคัดลอกผลงานทางวิชาการ (plagiarism)
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข. โรคไข้เลือดออก [อินเทอร์เน็ต]. 2566 [เข้าถึงเมื่อ 12 มีนาคม 2567]; เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=44
กุนนิดา ยารวง. การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกของ ประชาชนในตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย (วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย พะเยา: มหาวิทยาลัยพะเยา; 2555.
โรงพยาบาลพบพระ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก. รายงานผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ปี พ.ศ. 2566. ตาก: โรงพยาบาลพบพระ; 2567.
Shepard DS, Undurraga EA, Halasa, YA. Economic and disease burden of dengue in Southeast Asia. PLoS Negl Trop Dis. 2013; 7(2): e2055.
Green LW, Kreuter MW, editors. Health promotion planning: an educational and ecological approach. 3rd ed. Mountain View, CA: Mayfield Publishing; 1999.
Daniel WW. Biostatistics: A foundation of analysis in the health sciences. 6th ed. New York: John Wiley & Sons; 2010.
Best WJ. Research is Education. 3rd ed. Englewood Cliffs: New Jersey: Prentice Hell Publishing; 1977.
สิวลี รัตนปัญญา. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมและรูปแบบกิจกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกของประชาชน อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตร์). ภาควิชาสาธารณสุขศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่; 2561.
พรสุรางค์ ราชภักดี, สีใส ยี่สุ่นแสง, ทวีศักด์ ทองบู่, พุทธิพันธุ์ สนั่นนาม. การพัฒนาระบบควบคุม
โรคไข้เลือดออกเขตเทศบาลวิเชียรบุรี โดยการประยุกต์ใช้แผนที่ภาษี และทะเบียนทรัพย์สิน
และฐานข้อมูลทะเบียนระบบสุขภาพ. วารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก. 2564; 8(1): 16-29.
วันทนา ขยันการนาวี. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการป้องกันโรคไข้เลือดออกของประชาชนในพื้นที่แนวป่าห้วยขาแข้ง อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี (วิทยานิพนธ์ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต). บัณฑิตวิทยาลัย พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร; 2563.