8.ปัจจัยพยากรณ์พฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโป่งแค ตำบลวังประจบ อำเภอเมือง จังหวัดตาก
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเชิงวิเคราะห์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยพยากรณ์ที่พฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ประชากรคือ ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโป่งแค โดยใช้สูตรคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างของ Daniel เท่ากับ 180 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ คุณลักษณะส่วนบุคคล การรับรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 แบบสอบถามผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน และนำไปทดลองใช้เพื่อวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่าครอนบาค อยู่ระหว่าง 0.80 – 0.87 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัยพบว่า การรับรู้ด้านสุขภาพอยู่ในระดับสูง (78.89%) พฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อยู่ระดับปานกลาง (56.11%) และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ทำนายผลต่อพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ได้แก่ การรับรู้ถึงประโยชน์ (P-value=0.042) การรับรู้ต่ออุปสรรค (P-value=0.021) และสิ่งชักนำให้เกิดการปฏิบัติ (P-value=0.152) ตามลำดับ
ตัวแปรอิสระทั้ง 4 ตัว ดังกล่าวนี้ สามารถทำนายพฤติกรรมสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโป่งแค ตำบลวังประจบ อำเภอเมือง จังหวัดตาก
ได้ร้อยละ 20.1 (R2 =0.201)
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อลิขสิทธิ์วารสาร
บทความหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฏในวารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สคร. 2 พิษณุโลก เป็นวรรณกรรมของผู้เขียน กองบรรณาธิการวิชาการ และ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลกไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วยทั้งหมดหรือร่วมรับผืิดชอบใดๆ หากพบว่าบทความของท่านมีการคัดลอกผลงานทางวิชาการ (plagiarism) มากกว่า 25 เปอร์เซ็นวารสารขอปฏิเสธการตีพิมพ์เผยแพร่ทุกกรณี วิธีตรวจสอบการคัดลอกผลงานทางวิชาการ (plagiarism)
เอกสารอ้างอิง
กองโรคไม่ติดต่อ/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค. รณรงค์วันเบาหวานโลก 2566 ประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566. [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2567]. เข้าถึงได้จาก : https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=38403&deptcode=brc&news_views=2606
อมรรัตน์ รักฉิม. ปัจจัยที่มีผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 โรงพยาบาลปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ. 2561;10:195-226.
ลดาวัลย์ ทวดอาจ. พฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานที่รับรักษาไว้ในโรงพยาบาลบรบือ. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม. 2561;7:36-46.
วิสุทธิ์ โนจิตต์และคณะ. ปัจจัยทํานายพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี. 2562;8:200-212.
Rosenstock, M. I., Strecher, V. J., & Becker, M. H. Social learning theory and health
belief model. Health Education Quarterly. 1988; 152:75-138.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโป่งแค.(2567). รายงานอัตราป่วยโรคเบาหวานสามปีย้อนหลัง. [เข้าถึงเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567], เข้าถึงได้จาก: https://hdcservice.moph.go.th/hdc/main/index.php.
Daniel, W.W. Biostatistics: foundation for analysis in the health sciences(9thed.) NJ: John Wily&Sons.2010.
Best, John W. Research in Education. (3 rd edition). New Jersey: Prentice Hall.
Parasuraman, A., Zeithaml, V. A., & Berry, L.1988.
ฉวีวรรณ ศรีดาวเรือง, จิราพร วรวงศ์. ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมสุขภาพตามหลัก 3อ.2ส.ของผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9. 2565; 16:454-468.
มนัญญา ธรรมพณิชย์ และคณะ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่2ของกลุ่มวัยทำงานที่ประกอบอาชีพสวนยางพารา อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์. วารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก. 2566;10:19-39.
เลิศวิทย์ เหลือผล. ปัจจัยทำนายพฤติกรรมป้องกันภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยเบาหวานในตำบลอาจสามารถอำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา. 2567;9:455-466.