ประสิทธิผลของโปรแกรมการอบไอน้ำสมุนไพรต่อสุขภาวะของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรงพยาบาลวัดโบสถ์ อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก

Main Article Content

ศุภัชญา สุขกายะ
ศิริลักษณ์ เกี่ยวพันธุ์

บทคัดย่อ

สถานการณ์ของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังของจังหวัดพิษณุโลกผู้ป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ.2559 ถึง พ.ศ.2560  จำนวน 1,820 เป็น 1,871 ราย ในปี พ.ศ.2561 โรงพยาบาลวัดโบสถ์มีแนวโน้มของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มารักษาซ้ำภายใน 28วัน รวมถึงมีอัตราการใส่ท่อช่วยหายใจที่ห้องฉุกเฉินเพิ่มขึ้น จากสถานการณ์ดังกล่าวคณะวิจัยจึงได้ศึกษาทบทวนวรรณกรรมพบว่าการใช้สมุนไพรอบไอน้ำช่วยลดอาการหายใจหอบเหนื่อยได้  จึงทำการศึกษาวิจัยนี้ขึ้นโดยมี วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมการอบไอน้ำสมุนไพรต่อสุขภาวะของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง วิธีการวิจัย เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง กลุ่มตัวอย่างคัดเลือกแบบเจาะจง 56 คนเป็นกลุ่มทดลอง 28 คน กลุ่มเปรียบเทียบ 28 คน ที่มีคุณลักษณะใกล้เคียงกัน เครื่องมือที่ใช้ แบบประเมินผลการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข และแบบประเมินโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (CAT) การทดลองใช้ระยะเวลาครั้งละ 15 นาที 2 ครั้ง ต่อวัน ความถี่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง รวม 4 ครั้ง สถิติที่ใช้ในการวิจัย  ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  เปรียบเทียบการประเมินผลการรักษาและประเมินโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรม  โดยใช้สถิติ paired t-test และ independent t-test ผลการวิจัย  พบว่าผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังของกลุ่มทดลองมีผลการประเมินค่า CAT ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01  โดยลดลงจาก 4.71 เหลือ 2.25 และผลการเปรียบเทียบค่า CAT ระหว่างกลุ่มทดลองกับกลุ่มเปรียบเทียบพบว่า CAT หลังการทดลองในกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบมีค่า 2.25 และ 4.79 ตามลำดับ ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 สรุปและข้อเสนอแนะ จากผลการศึกษาพบว่าโปรแกรมการอบไอน้ำสมุนไพรสามารถช่วยลดอาการหอบและความรุนแรงของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังได้ ควรมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมในเรื่องของความคุ้มค่าและผลการรักษาในระยะยาว  

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สุขกายะ ศ., & เกี่ยวพันธุ์ ศ. (2019). ประสิทธิผลของโปรแกรมการอบไอน้ำสมุนไพรต่อสุขภาวะของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรงพยาบาลวัดโบสถ์ อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก. วารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก, 6(2), 15–27. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/dpcphs/article/view/214647
ประเภทบทความ
บทความวิชาการทั่วไป

เอกสารอ้างอิง

1.World health Organization. Chronic respiratory disease. [Internet]; 2007. [cited Jan 10]. Available from: https://www.who.int/respiratory/
COPD/diagnosis/en/index.html

2.คณะทำงานพัฒนาแนวทางเวชปฏิบัติบริการสาธารณสุขโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง.แนวเวชปฏิบัติบริการสาธารณสุข โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง พ.ศ.2553.กรุงเทพฯ: ยูเนียนอัลตราไวโอเร็ต; 2553.

3.อภิชาติ คณิตทรัพย์.COPD Management : A future prospective. ในAsthma and COPD for Healthcare Workers 2017 : Simplify your Practice; 20 - 21กรกฎาคม 2560.โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น .กรุงเทพฯ :มูลนิธิโรคหืดแห่งประเทศไทย. 2560

4.ระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข, การป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อที่สำคัญ; 2560 เข้าถึงเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2561. จากhttps://plk.hdc.moph.go.th/hdc/
reports/page.php?cat_id=6a1fdf282fd28180eed7d1cfe0155e11

5.งานเวชระเบียนและสถิติ โรงพยาบาลวัดโบสถ์. รายงานประจำปีงบประมาณ 2560. พิษณุโลก: แผนกงานเวชระเบียนโรงพยาบาลวัดโบสถ์; 2560.

6. Global Initiative for Chronic Obstructive Lung Disease [GOLD]. Pocket guide to global strategy for the diagnosis, management, and prevention of chronic obstructive pulmonary disease (update2017) [Internet]; 2017. [cited 2018/2/2]. Available from: https://goldcopd.org/wp-content/uploads/2016/12/wms-GOLD-2017-Pocket-Guide.pdf

7. Thorbjorn, L. Gregersen, et.al. Do telemedical interventions improve quality of life in patients with COPD A systematic review. International Journal of Chronic Obstructive Pulmonary Disease 2016; 11: 809–822.

8. ทัศนวรรณ กันทาทอง.ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื่อรังในอำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่.เชียงใหม่:มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2550.

9. วุฒิ วุฒิธรรมเวช. ย่อเภสัชกรรมไทยและสรรพคุณสมุนไพร.กรุงเทพฯ: ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์; 2546.

10. วิลาวัลย์ ไทรโรจรุ่งและคณะ.ผลของการประคบร้อนและเย็นต่อการลดปวดในระยะเจ็บครรภ์คลอด.กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ; 2553.

11. กฤษณา ผาใต้และ พิชญาพร คงนาค.ผลการอบสมุนไพรในผู้ป่วยโรคหืดโรงพยาบาลโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร.อิมแพคอรีนาเมืองทองธานี: กรุงเทพฯ.กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย. 2559.

12. งานแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลวัดโบสถ์. ผลการอบไอน้ำสมุนไพรในผู้ป่วยโรคหอบหืด โรงพยาบาลวัดโบสถ์. พิษณุโลก: แพทย์แผนไทย โรงพยาบาลวัดโบสถ์; 2560.

13. บริษัทแกล็กโซสมิทไคลน์. COPD assessment test, (2552) เข้าถึงเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2561. เข้าถึงได้จาก: https://www.catestonline.org/english/index_Thai.htm

14. Liu S, Shergis J, Chen X, Yu X, Guo X, Zhang AL, et al. Chinese herbal medicine (weijing decoction) combined with pharmacotherapy for the treatment of acute exacerbations of chronic obstructive pulmonary disease. Evidence-based complementary and alternative medicine : eCAM;2014:257012.

15.Coyle M, Shergis JL, Liu S, Wu L, Zhang AL, Guo X, et al. Safety of chinese herbal medicine for chronic obstructive pulmonary disease. Evidence-based complementary and alternative medicine : eCAM;2015:380678.