การปรับปรุงสภาพงานโดยใช้หลักการยศาสตร์แบบมีส่วนร่วม เพื่อลดความเสี่ยงบริเวณหลังส่วนล่างของพนักงานดัดเหล็กในโครงการก่อสร้างแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร

Main Article Content

ศรัณยู คำกลาง
ศรีรัตน์ ล้อมพงศ์
นันทพร ภัทรพุทธ

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการปรับปรุงสภาพงานโดยใช้หลักการยศาสตร์แบบมีส่วนร่วมของการปวดหลังส่วนล่าง และประเมินความเสี่ยงบริเวณหลังส่วนล่าง ในพนักงานดัดเหล็กในโครงการก่อสร้างแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร โดยศึกษากึ่งทดลองในกลุ่มตัวอย่างเพียงกลุ่มเดียว วัดผลก่อน - หลัง โดยมีจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ผ่านเกณฑ์คัดเข้าทั้งหมด 10 คน ผลการวิจัยครั้งนี้ หลังการปรับปรุงสภาพงานโดยใช้หลักการยศาสตร์แบบมีส่วนร่วม พบว่า มีความชุกของความผิดปกติทางระบบโครงร่างกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ลดลง ทุกคน (ร้อยละ 100.00) มีค่าคะแนนระดับความรุนแรงของอาการปวดหลังส่วนล่าง ลดลง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P = .012 มีช่วงของการเคลื่อนไหว Range of movement zone (ROM)  ท่าก้มไปด้านหน้า ท่าเหยียดตัวไปด้านหลัง ท่าโค้งด้านข้าง ลดลง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ P <.05 และค่าเฉลี่ยของภาระงานของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างในขณะทำงานเทียบกับขณะหดตัวสูงสุด (%MVC) ของกล้ามเนื้อแลททิสซิมุส ดอร์ไซ และกล้ามเนื้ออีเร็คเตอร์สไปเน่ ลดลงเมื่อเทียบกับก่อนการปรับปรุงสภาพงานโดยใช้หลักการยศาสตร์แบบมีส่วนร่วม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ P < .01  ดังนั้น สถานประกอบการควรนำหลักการยศาสตร์ แบบมีส่วนร่วมไปใช้ปรับปรุงสภาพงานอื่น เพื่อลดความเสี่ยงของการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

Article Details

ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ. รายงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ. [อินเทอร์เน็ต]; 2565. [เข้าถึงเมื่อ 10 กันยายน 2566]. เข้าถึงได้จาก:

https://www.krungsri.com/th/research/industry/industry-outlook/Construction-Construction-

สำนักงานประกันสังคม. สถานการณ์การประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานปี 2560 – 2564. [อินเทอร์เน็ต] [เข้าถึงเมื่อ 10 กันยายน 2566]. เข้าถึงได้จาก: https://www.sso.go.th/wpr/assets/upload/files_storage/sso_th/84b88f068b29c808bf3efe33028022

วิวัฒน์ สังฆะบุตร, สุนิสา ชายเกลี้ยง. ความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อในแรงงานนอกระบบกลุ่มดัดเหล็กปลอกเสาระบบมือโยก: การศึกษานำร่อง. ศรีนครินทร์เวชสาร 2554;26(3):225-32.

นิภาพร คำหลอม. การดำเนินงานการยศาสตร์ในสถานประกอบการ.คณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล. [อินเทอร์เน็ต]; 2564. [เข้าถึงเมื่อ 9 กันยายน 2566]. เข้าถึงได้จาก:

https://www.ohswa.or.th/17729346/ergonomics-make-it-simple-series-ep9

สุดารัตน์ บุญหล้า, สุนิสา ชายเกลี้ยง. การจัดการทางการยศาสตร์เพื่อลดความผิดปกติทางระบบกระดูกโครงร่างและกล้ามเนื้อจากการทำงานของพนักงานฝ่ายผลิตในภาคอุตสาหกรรม: การทบทวนงานวิจัยอย่างเป็นระบบ. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2564;14(4):1-11.

Mohamed M, Halim I, Azani A, Saptari A. Work posture improvement at plastic printing process in plastic manufacturing industry. J Adv Manuf Technol 2019;13(3):25-36.

Daneshmandi H, Kee D, Kamalinia M, Oliaei M, Mohammadi H. An ergonomic intervention to relieve musculoskeletal symptoms of assembly line workers at an electronic parts manufacturer in Iran. Work 2018; 61(4): 515-21.

อรณิชา ยมเกิด, ปิยะวัฒน์ ตรีวิทยา, นิวิท เจริญใจ. การปรับปรุงท่าทางการทำงานของพนักงานในอุตสาหกรรมตีมีดด้วยหลักการยศาสตร์. วารสารวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2558;22(3):10-20.

Krejcie RV, Morgan DW. Determining sample size for research activities. Educ Psychol Meas 1970;30(3):607-10.

Openshaw S, Taylor, E. Ergonomics and design a reference guide. Muscatine Iowa: Allsteel Inc.; 2006.

Kuorinka I, Jonsson B, Kilbom A, Vinterberg H, Biering-Sørensen F, Andersson G, et al. Standardised Nordic questionnaires for the analysis of musculoskeletal symptoms. Appl Ergon. 1987;18(3):233-37.

Crichton N. Visual analogue scale (VAS). J Clin Nurs. 2001;10(5):706-6.

Wewers ME, Lowe NK. A critical review of visual analogue scales in the measurement of clinical phenomena. Res Nurs Health. 1990;13(4):227-36.

รัฐวุฒิ สมบูรณ์ธรรม. การปรับปรุงสภาพงานโดยใช้หลักการยศาสตร์แบบมีส่วนร่วมเพื่อลดความเสี่ยงบริเวณหลังส่วนล่างในพนักงานแผนกลอกยางของโรงงานยางพาราแผ่นรมควันแห่งหนึ่งในจังหวัดจันทบุรี. [วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต]. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2560.

สุนิสา ถิ่นมาบแค. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเสี่ยงทางการยศาสตร์ของพนักงานฝ่ายผลิตใอุตสาหกรรม อัญมณี และเครื่องประดับ. [วิทยานิพนธ์การจัดการมหาบัณฑิต] กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ; 2561.

มนัส รงทอง, อัมรินทร์ คงทวีเลิศ, ดุสิต สุจิรารัตน์, เพชรรัตน์ ภูอนันตานนท์. ความชุกของอาการผิดปกติทางระบบกล้ามเนื้อและกระดูกโครงร่างในแรงงานใหม่เก็บเกี่ยวปาล์มน้ำมัน. วารสาร มฉก. วิชาการ 2562;23(1):77-92.

พาวิณี ใจบาน, วีระพร ศุทธากรณ์, ธานี แก้วธรรมานุกูล. ปัจจัยด้านการยศาสตร์และอาการผิดปกติโครงร่างกล้ามเนื้อ ขอบุคลากรสายสนับสนุนในโรงพยาบาลที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์. พยาบาลสาร 2556;40 (พิเศษ):1-11.

Yovi EY, Fauzi A. Penilaian risiko ergonomi dalam kegiatan pemungutan getah pinus: analisis postur kerja statis (ergonomics risk assessment in pine resin harvesting: a static postural analysis). J Sylva Lestari 2021;9(1):104-20.

Syuaib MF, Dewi NS, Sari TN. Studi gerak kerja pemanenan kelapa sawit secara manual. J Keteknikan Pertanian 2015;3(1):49–56.

นิธิเศรษฐ เพชรจู. การลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บจากการทำงานโดยหลักการทางการยศาสตร์กรณีศึกษาสหกรณ์กองทุนสวนยางพิจิตร จำกัด. [วิทยานิพนธ์ วศ.ม.วิศวกรรมอุตสาหการและระบบ]. สงขลา:มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์; 2555.

รัชนี จูมจี, เฉลิมสิริ เพพพิทักษ์, สุวัสสา ปั้นเหน่ง. การจัดการด้านการยศาสตร์สำหรับงานยกเคลื่อนย้ายกระสอบยางพารา ในสหกรณ์สวนยางพาราเมืองอุบลราชธานี. วารสารเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. 2563;10:25-36.

ณวรา เหล่าวาณิชย์. การประยุกต์ใช้หลักการยศาสตร์แบบมีส่วนร่วมในการปรับปรุงสภาพงานเพื่อลดความเสี่ยงของไหล่ในกลุ่มพนักงานสายสนับสนุนของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี. [วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต]. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2564.

ศิวกร จิรหฤทัย. การพัฒนาอุปกรณ์ช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในแนวราบสำหรับผู้ปฏิบัติงานเคลื่อนย้ายตัวผู้ป่วยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง. [วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต] ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2565.