การศึกษาและการทดสอบหาช่วงอายุที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรค Locomotive Syndrome โดยวิธีการทดสอบการก้าวสองครั้งโดยใช้ดัชนีใหม่

Main Article Content

จันทร์เพ็ญ อนุรัตนานนท์
ประจวบ กล่อมจิต
สิทธิชัย แซ่เหล่ม

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกําหนดขอบเขตของผู้ที่มีความเสี่ยงโรค Locomotive Syndrome ในแต่ละช่วงอายุและการออกกําลังกาย โดยวิธีการทดสอบการก้าวสองครั้งโดยดัชนีใหม่จากกลุ่มประชากรตัวอย่างจํานวน 408 คน ซึ่งมีการแบ่งช่วงอายุออกเป็น 6 ช่วง ดังนี้ ช่วงอายุ 21-30 ปี, 31-40 ปี, 41-50 ปี, 51-60 ปี, 61-70 ปีและ 71 ปีขึ้นไป ช่วงอายุละ 68 คนแบ่งเป็นเพศหญิง 34 คนเพศชาย 34 คน และทำการหาค่าขอบเขต ค่าพยากรณ์ความเสี่ยงที่จะเกิดโรค Locomotive Syndrome โดยใช้วิธีก้าวสองก้าวและเสนอแนะแนวทางการป้องกันการเกิดความเสี่ยงที่จะเกิดโรค Locomotive Syndrome ซึ่งวิธีการในการวิจัยจะทำการเปรียบเทียบกับดัชนีใหม่ ( Two-step test score < 1.1 และ Two-step test score < 1.3 ) วิเคราะห์สมการการถดถอยที่มีอิทธิพลร่วมระหว่างเพศกับช่วงอายุและระหว่างเพศกับการออกกำลังกาย และสมการการถดถอยโลจิสติกส์ที่มีปัจจัยร่วมระหว่างเพศ ช่วงอายุและการออกกำลังกายมีผลต่อความเสี่ยงของโรค Locomotive Syndrome จึงสรุปได้ว่าเมื่อพิจารณาปัจจัยทั้ง 3 ได้แก่ เพศ อายุ และระดับการออกกำลังกายพบว่ากลุ่มประชากรตัวอย่างทั้งเพศหญิงและเพศชายมีค่าขอบเขตบนและขอบเขตล่างเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือยิ่งมีอายุเพิ่มมากขึ้นค่าขอบเขตที่ได้จะยิ่งมีค่าต่ำลง กล่าวคือยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้นความเสี่ยงในการเกิดโรค Locomotive Syndrome จะมีมากขึ้น


 

Article Details

ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

Yoshimura N, Muraki S, Oka H, Tanaka S, Ogata T, Kawaguchi H, et al. Association between new indices in the locomotive syndrome risk test and decline in mobility: third survey of the ROAD study. J Orthop Sci 2015;20(5):896-905.

การทดสอบความเป็นการกระจายแบบปกติ (Normality Test), วิธีสืบค้นวัสดุสารสนเทศ.[อินเทอร์เน็ต], [เข้าถึงเมื่อ 3 กันยายน 2565]. เข้าถึงได้จาก :http://www.geocitics.ws/chalong_sri/normal_test.htm.

ภาควิชาสถิติ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร“ วิธีการทางสถิติสำหรับวิจัย โดยใช้โปรแกรม SPSS”

วิลาวัลย์ รัตนา. พฤติกรรมการดูแลสุขภาพและการสนับสนุนทางสังคมกับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี” [สารนิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต] มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ; 2552.

Imaoka M, Nakao H, Nakamura M, Tazaki F, Hida M, Omizu T, et al. Associations between depressive symptoms and geriatric syndromes in community-dwelling older adults in Japan: A cross-sectional study. Prev Med Rep 2021;22:101353.

Ogata T, Yamada K, Miura H, Hino K, Kutsuna T, Watamori K, et al. Feasibility and applicability of locomotive syndrome risk test in elderly patients who underwent total knee arthroplasty. Mod Rheumatol. 2023;33(6):1197-203.

Ishibashi H. Locomotive syndrome in Japan. Osteoporos Sarcopenia 2018;4(3):86-94.

Matsumoto H, Hagino H, Wada T, Kobayashi E. Locomotive syndrome presents a risk for falls and fractures in the elderly Japanese population. Osteoporos Sarcopenia 2016;2(3):156-63.

Tavares DR, Santos FC. Locomotive syndrome in the elderly: translation, cultural adaptation, and Brazilian validation of the tool 25-Question Geriatric Locomotive Function Scale. Rev Bras Reumatol Engl Ed 2017;57(1):56-63.