การพัฒนาและทดสอบประสิทธิภาพโปรแกรมประยุกต์สำหรับการยืนทำงาน เพื่อความปลอดภัย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและทดสอบประสิทธิภาพโปรแกรมประยุกต์สำหรับการยืนทำงานเพื่อความปลอดภัย มีกระบวนการศึกษา 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1) กำหนดมาตรการในการยืนทำงานอย่างปลอดภัย 2) สร้างโปรแกรมประยุกต์สำหรับการยืนทำงานเพื่อความปลอดภัยในรูปแบบของแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ และ 3) ทดลองใช้งานโปรแกรมที่สร้างขึ้นในกลุ่มตัวอย่างที่ยืนทำงาน และยินดีเข้าการวิจัยจำนวน 180 คน เพื่อประเมินความพึงพอใจและความรู้สึกปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่องและเท้าภายหลังการทดลองใช้โปรแกรม ที่ติดตั้งในระบบดาวน์โหลดแอปพลิเคชันประเภทแอนดรอยด์ ที่ชื่อว่า “Safety Standing” ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อองค์ประกอบ และการใช้งานโปรแกรมส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก ความรู้สึกปวดน่องลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังใช้งานโปรแกรม 2 สัปดาห์ (p<0.05) และความรู้สึกปวดเท้าลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้งานโปรแกรมเพียง 1 สัปดาห์ (p<0.001) ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าโปรแกรมประยุกต์สำหรับการยืนทำงานเพื่อความปลอดภัยในรูปแบบของแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือสามารถช่วยลดความรู้สึกปวดบริเวณน่องและเท้าได้ รวมถึงทำให้เกิดความพึงพอใจในการใช้งาน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความปลอดภัยในการยืนทำงานของคนงานต่อไป
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
เรียงสอน สุวรรณ, ภารดี นานาศิลป์, ธานี แก้วธรรมานุกูล. ปัจจัยคุกคามสุขภาพจากการทำงานและภาวะสุขภาพตามความเสี่ยงของคนงานโรงงานเซรามิกขนาดใหญ่. พยาบาลสาร. 2559;43(4):67-78.
พรรณี นันทะแสง, กาญจนา นาถะพินธุ. ปัญหาสุขภาพและสภาพแวดล้อมในการทำงานของช่างเชื่อมโลหะด้วยไฟฟ้า อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำพู. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น2555;5(3):21-30.
วงศกร อังคะคำมูล และพลภัทร ศรีกุล. ปัจจัยความสำเร็จของการขับเคลื่อนพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 กรณีศึกษา พื้นที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10. วารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. 2560;3(3):141-53.
Smith P, Ma H, Glazier RH, Gilbert-Ouimet M, Mustard C. The relationship between occupational standing and sitting and incident heart disease over a 12-year period in Ontario, Canada. J Epidemiol. 2018;187(1):27–33.
ดนัย เครือแวงมล, ปวีณา มีประดิษฐ์, ทนงศักดิ์ ยิ่งรัตนสุข. การประเมินอาการผิดปกติของกล้ามเนื้อบริเวณหลัง ขา และเท้าในกลุ่มคนงานยืนทำงานเป็นเวลานานในโรงงานผลิต. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 2560;36(2):166-70.
Crichton N. Information point: Visual Analogue Scale (VAS). J Clin Nurs. 2001;10:697-706.
NakmonT, Meepradit P, Amphawan K. Development a computer aided program for environmental monitoring in work establishments in Chonburi, Thailand. Proceedings of the 5th International Scientific Conference and the 9th National Scientific Conference on Occupational and Environmental Health; 2018 Nov 10-12; Hanoi, Vietnam. 2018. p. 27-31.
ลลิดา อาชานานุภาพ, รุ้งจิต เติมศิริกุลชัย. การประเมินความปวดและพฤติกรรมที่ผู้ป่วยแสดงออกหลังผ่าตัดที่ห้องพักฟื้น. รามาธิบดีพยาบาลสาร. 2552;15(3):315-25.
Van Dieën JH, Oude Vrielink HH. Evaluation of work-rest schedules with respect to the effects of postural workload in standing work. Ergonomics. 1998;41(12):1832-44.
วทัญญู จูเกษม. ผลกระทบของสภาพการทำงานและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของสตรีที่ยืนทำงานแบบไม่สมดุลเป็นเวลานาน. วิทยานิพนธ์สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. 2559.
Rys M, Konz, S. Standing. Ergonomics. 1994;37(4):677-87.
Fewster KM, Gallagher KM, Callaghan, JP. The effect of standing interventions on acute low-back postures and muscle activation patterns. Appl Ergon. 2017;58:281-86.
ณิชกมล แก้วกระจาย. การสร้างสรรค์วิดีโออาร์ตโดยการใช้เสียงดนตรีในรูปแบบ Sound design. จุลนิพนธ์ในหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิตสาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร. 2556.
Aziz AA, Karuppiah K, Suhaimi NA, Perumal V, Perimal EK, Tamrin SBM. Footrest intervention: Association between prolonged standing and perceived exertion in the body parts among industrial workers using Borg’s scale questionnaire. Int J Ind Ergon. 2020;76:1-7.