การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการประเมินความเสี่ยงด้านการยศาสตร์ต่อการบาดเจ็บ ของรยางค์ส่วนบนด้วยเทคนิค LUBA และ RULA กรณีศึกษา ท่าทางการปฏิบัติงานของพนักงานประกอบปืนจุดไฟ

Main Article Content

ณิชารัศม์ ปัญจโพธิวัฒน์
วรางคณา สินธุยา
ประกาศิต ทอนช่วย

บทคัดย่อ

ความผิดปกติของระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงาน เป็นผลกระทบทางสุขภาพที่เกิดจากความเสี่ยงด้านการยศาสตร์       การเลือกเทคนิคการประเมินความเสี่ยงเป็นวิธีการลดโอกาสการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลของวิธีการประเมินความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของรยางค์ส่วนบนซีกซ้ายและขวาระหว่างเทคนิค RULA และเทคนิค LUBA ของพนักงานประกอบปืนจุดไฟของสถานประกอบกิจการในจังหวัดเชียงราย จำนวน 27 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามมาตรฐานเกี่ยวกับความผิดปกติระบบโครงร่างกระดูกและกล้ามเนื้อ และประเมินความเสี่ยงด้วยเทคนิค RULA และเทคนิค LUBA แบ่งการประเมินเป็น 3 ท่า ได้แก่ ท่าใส่อุปกรณ์ ท่าตรวจสอบไฟ และท่าใส่สกรูไฟฟ้า ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างปวดไหล่ซีกขวามากที่สุด ร้อยละ 50.00 มือ/ข้อมือซีกขวา ร้อยละ 41.67 ผลการประเมินความเสี่ยงด้วยเทคนิค LUBA พบว่าอยู่ในระดับเสี่ยงปานกลางและเสี่ยงสูง ร้อยละ 42.60 ผลการประเมินความเสี่ยงด้วยเทคนิค RULA อยู่ในระดับเสี่ยงปานกลาง ร้อยละ 100 และพบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) ระหว่างเทคนิค LUBA และ RULA ในท่าใส่สกรูไฟฟ้าซีกซ้าย และไม่พบความสัมพันธ์ของวิธีการประเมินในท่าใส่อุปกรณ์ซีกขวา (p=0.243) และซีกซ้าย (p=0.131) ท่าตรวจสอบไฟซีกขวา (p=0.268) และซีกซ้าย (p=0.262) การเลือกใช้เครื่องมือประเมินความเสี่ยงด้านการยศาสตร์ประเภทแบบสังเกตควรให้สอดคล้องกับลักษณะการทำงานของผู้ปฎิบัติงาน มุมและทิศทางการเคลื่อนไหวของอวัยวะที่ใช้ในการประเมินของแต่ละเครื่องมือ เพื่อให้ได้ผลการประเมินความเสี่ยงที่ใกล้เคียงความเป็นจริง และนำไปสู่แนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี

Article Details

ประเภทบทความ
นิพนธ์ต้นฉบับ

เอกสารอ้างอิง

อรรถพล แก้วนวล, บรรพต โลหะพูนตระกูล, กลางเดือน โพชนา. ความชุกของความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อและกระดูกโครงร่างที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงานในอาชีพต่างๆ. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา. 2560;12(2):53-64.

กระทรวงสาธารณสุข. รายงานสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ปี 2561 [อินเทอร์เน็ต]. นนทบุรี: กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2562 [เขาถึงเมื่อ 22 พ.ค. 2565]. เข้าถึงได้จาก: http://envocc.ddc.moph.go.th/uploads/situation2/2561/2561_01_envocc_situation.pdf

กตัณชานุช สมนา. ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับอาการผิดปกติในระบบโครงร่างกล้ามเนื้อของเกษตรกรปลูกข้าวโพด ตำบลศรีวิชัย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน [การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; 2557.

ประกาศิต ทอนช่วย, เกษแก้ว เสียงเพราะ. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับอาการผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อของเกษตรกรเก็บลิ้นจี่ จังหวัดพะเยา. วารสารสุขศึกษา. 2562;42(1):119-34.

ตะวัน วรรณรัตน์. การศึกษาแรงงานนอกระบบในประเทศไทย. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร. 2557;34(3): 119-50.

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน.การสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัยเกี่ยวกับแรงงานนอกระบบเพื่อการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบที่ดีอย่างมีประสิทธิภาพ [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: กองคุ้มครองแรงงานนอกระบบ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกระทรวงแรงงาน; 2561 [เขาถึงเมื่อ 22 พ.ค. 2565]. เข้าถึงได้จาก: https://informal.labour.go.th/images/Report/FinalReport01.pdf

วิวัฒน์ สังฆะบุตร, สุนิสา ชายเกลี้ยง. ความผิดปกติทางระบบโครงร่างและกล้ามเนื้อในแรงงานนอกระบบกลุ่มดัดเหล็กปลอกเสาระบบมือโยก: การศึกษานำร่อง. ศรีนครินทร์เวชสาร. 2554;26(3):225-32.

จันจิรา ทิพวัง, กาญจนา นาถะพินธุ. ความชุกและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับอาการปวดกล้ามเนื้อของกลุ่มอาชีพเย็บผ้าโหล ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น. 2559;23(1):46-61.

ชมพูนุช สุภาพวานิช, อาอีเสาะ มูซอ, อัญชลี พงษ์เกษตร. ความชุกของอาการปวดหลังส่วนล่างในแรงงานนอกระบบของท่าเทียบเรือประมงแห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานี. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์. 2562;11(3):55-68.

ยุพยง หมั่นกิจ, กติกา สระมณีอินทร์. การศึกษาอาการปวดเมื่อยโครงร่างและกล้ามเนื้อของพ่อค้าส่งผลไม้ตลาดเจริญศรี อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. 2561;20(3):180-8.

จุฑามาศ ตามเพิ่ม, อัมรินทร์ คงทวีเลิศ, ดุสิต สุจิรารัตน์, เพชรรัตน์ ภูอนันตานนท์. ความชุกและปัจจัยที่ส่งผลต่ออาการผิดปกติทางระบบกล้ามเนื้อและกระดูกโครงร่างของกล่มช่างทำทองไทยโบราณ จังหวัดสุโขทัย. ศรีนครินทร์เวชสาร. 2562;34(5):475-81.

เพชรรัตน์ แก้วดวงดี, รุ้งทิพย์ พันธุเมธากุล, วัณทนา ศิริธราธิวัตร, ยอดชาย บุญประกอบ, สาวิตรี วันเพ็ญ, ภาณี ฤทธิ์มาก, ยุพา ถาวรพิทักษ์. ความชุกและปัจจัยด้านท่าทางการทำงานที่สัมพันธ์กับอาการปวดหลังส่วนล่างในกลุ่มอาชีพอุตสาหกรรมสิ่งทอ (แหอวน) จังหวัดขอนแก่น. ศรีนครินทร์เวชสาร. 2554;26(4):317-24.

อิสรีย์รัช สืบศรี, มัณฑนา ดำรงศักดิ์, ธีรนุช ห้านิรัติศัย. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการบาดเจ็บโครงร่างกล้ามเนื้อที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงานในผู้ประกอบอาชีพผลิตธูป. พยาบาลสาร. 2556;40(พิเศษ):108-19.

ทศพล บุตรมี. เครื่องมือประเมินปัจจัยเสี่ยงด้านการยศาสตร์จากการทำงาน. วารสารควบคุมโรค. 2559;42 (1):11-4.

Yazdanirad S, Khoshakhlagh AH, Habibi E, Zare A, Zeinodini M, Dehghani F. Comparing the effectiveness of three ergonomic risk assessment methods-RULA, LUBA, and NERPA-to predict the upper extremity musculoskeletal disorders. Indian J Occup Environ Med. 2018;22(1):17-21.

Vahdatpour B, Sadeghi S. Postural assessment and the prevalence of musculoskeletal disorders during routine clinical examinations among otolaryngologists in Isfahan City, Iran. J Phys Med Rehabil Elect. 2007;1(4):172–9.

Pratiwi I, Rahman M. Postural evaluation and hand activity level at Batik Cap Process using LUBA and ACGIH HAL methods. Int J Recent Technol Eng. 2019;8:2552-60.

Beheshti MH, Borhani jebeli M, Tajpoor A. Evaluating the potential risk of musculoskeletal disorders and postural loading of task postures in bakery. Arch Occup Health. 2018;2(4):216-24.

Kuorinka I, Jonsson B, Kilbom A, Vinterberg H, Biering-Sørensen F, Andersson G, et al. Standardised Nordic questionnaires for the analysis of musculoskeletal symptoms. Appl Ergon. 1987;18(3):233-7.

McAtamney L, Nigel Corlett E. RULA: a survey method for the investigation of work-related upper limb disorders. Appl Ergon. 1993;24(2):91-9.

Kee D, Karwowski W. LUBA: an assessment technique for postural loading on the upper body based on joint motion discomfort and maximum holding time. Appl Ergon. 2001;32(4):357-66.

Sahu S, Sett M. Ergonomic evaluation of the tasks performed by the female workers in the unorganized sectors of the manual brick manufacturing units in India. Ergonomics SA. 2010;22:2-16.

Sanchez-Lite A, Garcia M, Domingo R, Angel Sebastian M. Novel ergonomic postural assessment method (NERPA) using product-process computer aided engineering for ergonomic workplace design. PloS One. 2013;8(8):e72703.

Chiasson M-È, Imbeau D, Aubry K, Delisle A. Comparing the results of eight methods used to evaluate risk factors associated with musculoskeletal disorders. Int J Ind Ergon. 2012;42(5):478-88.

David GC. Ergonomic methods for assessing exposure to risk factors for work-related musculoskeletal disorders. Occup Med (Lond). 2005;55(3):190-9.

Grooten WJA, Johansson E. Observational methods for assessing ergonomic risks for work related musculoskeletal disorders. a scoping review. Rev Cienc de la Salud. 2018;16:8. doi:10.12804/revistas.urosario.edu.co/revsalud/a.6840.