ประโยชน์ของประสิทธิภาพของการพิมพ์สัมผัส ต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ ความรู้สึกไม่สบาย ในช่วงเวลาการทำงานกับคอมพิวเตอร์ 4 ชั่วโมง

บทคัดย่อ

ทักษะการพิมพ์เป็นความสามารถของบุคคลที่เป็นความต้องการสำหรับงานที่ต้องใช้แป้นพิมพ์มากๆ การพิมพ์ที่มีทักษะมากสามารถช่วยให้ทำงานเสร็จได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตามการพิมพ์ส่งผลต่อท่าทางที่อยู่นิ่งของศีรษะ คอ และบ่า เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่มีทักษะน้อยกว่า การศึกษาครั้งนี้เปรียบเทียบคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อของ กล้ามเนื้อ trapezius, deltoid และ splenius capitis และความรู้สึกไม่สบายในการทำงาน 4 ชม ของกลุ่ม ที่พิมพ์งานหญิง ทั้งพิมพ์สัมผัสและไม่สัมผัส กลุ่มทดลอง 2 กลุ่ม คือพิมพ์ดีดสัมผัสมีผู้เข้าร่วมการวิจัย 21 คนและ กลุ่มพิมพ์ไม่สัมผัสมีผู้เข้าร่วมการวิจัย 20 คน ทำการพิมพ์ต่อเนื่อง 240 นาที ทำการเก็บคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อจาก upper trapezius, anterior deltoid and splenius capitis จำนวนคำที่พิมพ์ได้ และความรู้สึกไม่สบายบริเวณคอ บ่า และแขน ผู้เข้าร่วมการวิจัยจะได้รับการวัดตัวแปรทั้งหมดซ้ำทุก 40 นาที คลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ ค่า EMG ถูกนำมาแปลงให้เป็น %MVC ค่า %MVC ของ anterior deltoid ในกลุ่มพิมพ์สัมผัสมีค่ามากกว่ากลุ่มพิมพ์ไม่สัมผัส (8-9% vs. 5.4-5.5%) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ นาทีที่ 40, 80 และ 160 ระดับความรู้สึกไม่สบายของกลุ่มพิมพ์ไม่สัมผัสมีค่ามากกว่ากลุ่มพิมพ์สัมผัสที่คอ (2.1 cm. vs. 3.2 cm.) และบ่าข้างขวา (3.5 cm. vs. 2.2 cm.) ที่นาทีที่ 240 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในกลุ่มพิมพ์ดีดสัมผัสพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของ %MVC จากนาทีที่ 5 ถึงนาทีที่ 240 ของ anterior deltoid (8.0% vs.10.8%) และ splenius capitis (15.0%vs. 20.6%) พบว่ามีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของ จำนวนคำที่พิมพ์ได้ และมีการเพิ่มขึ้นของระดับความรู้สึกไม่สบาย ณ ส่วนของร่างกายที่ทำการศึกษา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทั้ง 2 กลุ่ม ส่วนในกลุ่มพิมพ์ไม่สัมผัสพบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของ %MVC จากนาทีที่ 160 ถึง นาทีที่ 240 ของ upper trapezius (7.4% vs. 8.6% ) และจากนาทีที่ 5 ถึง นาทีที่ 240 ของ splenius capitis (20.7% vs. 22.9%). ผลการศึกษาแสดงว่ากลุ่มพิมพ์สัมผัสมีระดับความรู้สึกไม่สบายและทำงานของ upper trapezius น้อยกว่า กลุ่มพิมพ์ไม่สัมผัสดังนั้นจึงควรมีการฝึกพิมพ์ดีดสัมผัสสำหรับผู้เริ่มต้นหัดพิมพ์ดีด