การออกแบบและพัฒนาเครื่องจักรกึ่งอัตโนมัติเพื่อเพิ่มผลิตภาพในกระบวนการลนท่อหุ้มสายไฟ
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความสูญเปล่าที่และเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการลนท่อหุ้มสายไฟรถยนต์ เนื่องจากกระบวนการลนท่อหุ้มสายไฟเป็นกระบวนการที่มีรอบเวลาในการผลิตสูงที่สุด ไม่มีมาตรฐานในการทำงาน พนักงานเกิดความเมื่อยล้าในการทำงานและมีกระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อน ผู้วิจัยจึงทำการวิเคราะห์ปัญหาและหาแนวทางการแก้ไขโดยการออกแบบเครื่องจักรกึ่งอัตโนมัติ เพื่อช่วยในกระบวนการลนท่อหุ้มสายไฟ โดยคำนึงถึงปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และใช้หลัก Jig and fixture design และประเมินความเสี่ยงของท่าทางในการทำงานโดยเทคนิควิธี RULA หลังการปรับปรุงโดยการใช้เครื่องจักรกึ่งอัตโนมัติในการลนท่อหุ้มสายไฟ ทำให้สามารถลดรอบเวลาการทำงานจากเดิม 23.49 นาที เป็น 19.48 นาที หรือลดลง 17.07% และสามารถเพิ่มผลิตภาพได้ 23.5% และลดความเมื่อยล้าที่เกิดขึ้นก่อนการปรับปรุง จากการวิเคราะห์การประเมินความเสี่ยงของท่าทางในแต่ละส่วนโดยใช้โปรแกรม RULA พบว่าการใช้เครื่องจักรกึ่งอัตโนมัติในการลนท่อหุ้มสายไฟสามารถทำให้ความเสี่ยงลดลงจากเดิมในระดับ 4 หรือท่าทางที่ควรตรวจสอบแก้ไขในทันที ลดลงอยู่ในระดับ 1 หรือท่าทางที่ยอมรับได้ ซึ่งแสดงว่าการใช้เครื่องจักรกึ่งอัตโนมัติในการลนท่อหุ้มสายไฟสามารถช่วยลดความเมื่อยล้าของพนักงานได้
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
กรมการขนส่งทางบก.Transportation Statistics Report [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
https://www.m-society.go.th/article_attach/19286/20656.pdf.
กวีพล พันธุ์เพ็ง. SCB Economic Intelligence Center (EIC) [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก
ประจวบ กล่อมจิตร. การประเมินและปรับปรุงงานในสถานประกอบการโดยหลักการยศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 1สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร; 2554.
รัชต์วรรณ กาญจนปัญญาคม.การศึกษาการเคลื่อนไหวและเวลา. สำนักพิมพ์ฟิสิกส์เซ็นเตอร์; 2538.
วชิระ มีทอง. การออกแบบจิ๊กและฟิกซ์เจอร์. พิมพ์ครั้งที่ 12. สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น); 2545.