The Development of an Elderly Care Competency Model for Caregivers at Tambon Pamamuong, Aumphur Muaengtak ,Tak Province

Authors

  • Narumon Promwa

Keywords:

The Development model, The Elderly Care Competency, Self-efficacy, Caregiver

Abstract

The purpose of this study was to develop a model for the elderly care competency of caregivers. The research was conducted in three steps:1) study the caregivers’ need of elderly care competencies by analyzing and synthesizing the data obtained from the related documents, survey , focus groups, and interviews of 30 caregivers and 5 experts ;2) construct an elderly care competency model by using self-efficacy enhancing program validated by 5 experts; 3)implement and evaluate the draft of elderly care competency model for 12 weeks. The instruments included questionnaires, in-depth interviews, focus groups interview, competency test, satisfaction survey, and practice evaluation. Data were analyzed using content analysis, descriptive statistics of percentage, mean, standard deviations , median , inter-quartile and interferential statistics of paired t-test for dependent group. The results demonstrated that: 1) the caregivers’ need for elderly care competency was composed of 6 competencies including elderly hypertension care and vital sign measuring , food and nutrition, exercise , daily routine support, environment and communication; 2) the development of an elderly care competency model consisted of principles, objectives, contents, and the self-efficacy enhancing program which was effective in raising the competency levels of caregivers in all aspects after the model implementation at statistical significance of .05. It was also found that the caregivers were satisfied with the elderly care competency development at the highest level ( = 4.63, S.D. = 0.453). Therefore, the model can be utilized in developing the caregivers’ elderly care competency effectively.

References

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, (2558). การออก
กำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์
องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
ขนิษฐา จิตชินะกุล. (2557). หลักการสื่อสาร. กรุงเทพฯ:
โรงพิมพ์ โอ.เอส.พริ้นติ้ง.เฮ้าส์.
เฉลิมพล ชนะนพวรรณ. (2552). คู่มือการดูแลผู้สูงอายุ
(Elder Care Manual). กรุงเทพฯ: แปลนพริ้นท์ติ้ง.
ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก. (2558).
สถิติกรมการปกครอง 2558.
ทิศนา แขมมณี. (2553). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้
เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
(พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่ง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พิสมัย บุญเลิศ, เทอดศักดิ์ พรหมอารักษ์ และศุภวดี แถว
เพีย. (2559). การพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพ
อย่างต่อเนื่องสำหรับผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้าน
ติดเตียงในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้าน
ดงมัน ตำบลสิงห์โคก อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัด
ร้อยเอ็ด. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรค
ที่ 7 จังหวัดขอนแก่น, 23(2), 79-87.
ภาวิณี พรหมบุตร, เอื้อจิต สุขพูล, กิตติภูมิ ภิญโย และ
ปิยนุช ภิญโย. (2558). ผลของโปรแกรมการ
เสริมสร้างการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อความรู้
และการรับรู้สมรรถนะแห่งตนของอาสาสมัคร
สาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการดูแลผู้ป่วย
เบาหวานและความดันโลหิตสูงในชุมชน ของ
จังหวัดแห่งหนึ่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
(ตอนใต้). วารสารวิทยาลัยพยาบาลสงขลา
นครินทร, 35(2), 113-128.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. (2559).
สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ.2558. กรุงเทพฯ:
อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
ยุพา สุทธิมนัส, วนิดา ดุรงค์ฤทธิ์ชัย และทวีศักดิ์ กสิผล.
(2557). การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาล
เพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ควบคุม
ความดันโลหิตไม่ได้. วารสารพยาบาลสาธารณสุข,
28(2), 81-91.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านชะลาด ตำบลป่า
มะม่วง. (2559). รายงานผู้ป่วยประจำปี 2559.
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านชะลาด
ตำบลป่ามะม่วง อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก.
ศูนย์ฝึกอบรมปฐมพยาบาลและสุขภาพอนามัย
สภากาชาดไทย. (2555). การดูแลตนเองของ
ผู้สูงอายุ (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: รุ่งแสง
การพิมพ์.
ศูนย์ฝึกอบรมปฐมพยาบาลและสุขภาพอนามัย
สภากาชาดไทย. (2555). การดูแลผู้สูงอายุ
(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: รุ่งแสงการพิมพ์.
สุมาลี เอี่ยมสมัย, รัตนา เหมือนสิทธิ์ และจรูญศรี
ทองมาก.( 2556). รูปแบบการดูแลผู้สูงอายุของ
อาสาสมัครผู้ดูแลผู้สูงอายุในเขตเทศบาล
ตำบลพุกร่าง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัด
สระบุรี. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข,
22(3), 77-86.
สุรเกียรติ อาชานานุภาพ. (2553). ตำราการตรวจรักษา
โรคทั่วไป (พิมพ์ครั้งที่ 5 ฉบับปรับปรุง).
กรุงเทพฯ: พิมพ์ดี กรุงเทพฯ.
สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความ
มั่นคงของมนุษย์. (2557). ประชากรสูงอายุไทย :
ปัจจุบันและอนาคต. ใน เอกสารประมวลสถิติ
ด้านสังคม 1/2558 (หน้า 1-13). กรุงเทพฯ: ศูนย์
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร สำนักงาน
ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก. (2558). รายงาน
ผลการดำเนินงานสำนักงานสาธารณสุข
จังหวัดตาก ประกอบการตรวจราชการระดับ
จังหวัดตาก 2558. ตาก.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีและการ
สื่อสาร. (2557). การสำรวจประชากรสูงอายุใน
ประเทศไทย พ.ศ.2557. กรุงเทพฯ: เท็กซ์ แอนด์
เจอร์นัล พับลิเคชั่น.
สายพิณ เกษมกิจวัฒนา และปิยะพร ไพรสนธิ์. (2557).
ญาติผู้ดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง:กลุ่มเสี่ยงที่ไม่ควร
มองข้าม. วารสารสภาการพยาบาล, 29(4), 22-31.
อารีย์ สุขก้องวารี. (ม.ป.ป.). การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ.
ในละเอียด แจ่มจันทร์ และสุรี ขันธรักษวงศ์
(บรรณาธิการ), สาระทบทวนการพยาบาลผู้สูงอายุ
(หน้า 28 – 34). กรุงเทพฯ: จุดทอง.
Bandura, A. (1994). Self-Efficacy. In V.S. Ramachaudran
(Ed.),Encyclopedia of human behavior
(Vol. 4,pp. 1-15). New York: Academic Press.
Bandura, A. (1997). Self-Efficacy: The exercise of control.
New York : Worth Publishers.
Joyce.B.R. & Weil.M. (2000). Models of Teaching
(6th ed.). Boston: Allyn and Bacon

Downloads

Published

2019-02-18

How to Cite

Promwa, N. (2019). The Development of an Elderly Care Competency Model for Caregivers at Tambon Pamamuong, Aumphur Muaengtak ,Tak Province. NU Journal of Nursing and Health Sciences, 12(3), 71–82. Retrieved from https://he01.tci-thaijo.org/index.php/NurseNu/article/view/173062