ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษาผู้ป่วย ที่มีภาวะโซเดียมในเลือดต่ำชนิดที่มีอาการรุนแรง ด้วยวิธีการให้สารน้ำ 3%NaCl แบบเร็วเปรียบเทียบกับ การให้แบบปกติในโรงพยาบาลราชวิถี

Main Article Content

อรกานต์ หลานวงษ์
กำธร ลีลามะลิ

บทคัดย่อ

บทนำ: สมาคมแพทย์โรคไตของยุโรปแนะนำให้ 3% NaCl 150 มิลลิลิตรในทุก 20 นาที จนกว่าระดับโซเดียมในเลือดสูงกว่า 5 มิลลิโมล/ลิตร และมีอาการดีขึ้น สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะโซเดียมในเลือดต่ำชนิดที่มีอาการรุนแรง อย่างไรก็ตามแนวทางการรักษาอ้างอิงมาจากงานวิจัยที่มีจำนวนประชากรค่อนข้างน้อย และส่วนหนึ่งเป็นคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นที่มาของการศึกษานี้


แบบแผนการวิจัย: รูปแบบการวิจัยเป็นการศึกษาแบบการทดลองแบบสุ่มที่มีกลุ่มควบคุมในผู้ป่วยที่มีโซเดียมในเลือดน้อยกว่า 125 มิลลิโมลต่อลิตร แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ให้สารน้ำ 3%NaCl แบบเร็ว (intermittent bolus) คือการให้สารน้ำ 3%NaCl 150 มล. ในทุก 20 นาที และ กลุ่มให้สารน้ำ 3%NaCl แบบปกติ 1 มม./กก./ชั่วโมง จนกว่าระดับโซเดียมในเลือดจะมีค่าสูงกว่า 5 มิลลิโมล/ลิตร และมีอาการกลับสู่ปกติ โดยผลลัพธ์หลักของการศึกษานี้ คือการเปลี่ยนแปลงของระดับโซเดียมในเลือด และระดับความรู้สึกตัวที่ประเมินด้วย Glasgow Coma Scale (GCS) ที่ 6 ชั่วโมงหลังได้รับสารน้ำ


ผลการศึกษา: มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์คัดเข้าทั้งหมด 13 ราย โดยอยู่กลุ่มให้สารน้ำ 3% NaCl แบบเร็ว 7 ราย กลุ่มให้สารน้ำ 3% NaCl แบบปกติ 6 ราย และมีผู้ป่วยจำนวน 2 รายจากแต่ละกลุ่มถูกถอนจากการศึกษา ดังนั้นจึงเหลือจำนวนผู้ป่วยที่นำมาวิเคราะห์เบื้องต้น (preliminary analysis) ทั้งหมด 9 ราย โดยอยู่กลุ่มให้สารน้ำ 3%NaCl แบบเร็ว 5 ราย และกลุ่มให้สารน้ำ 3%NaCl แบบปกติ 4 รายตามลำดับ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่า ค่าเฉลี่ยของโซเดียมในเลือดของทั้ง 2 กลุ่มไม่มีความแตกต่างกัน (115.2 ± 6.05 และ 111.25 ± 10.01 มิลลิโมล/ลิตร, p-value เท่ากับ 0.650) ยกเว้นระดับของยูเรียและกรดยูริกในเลือดของกลุ่มให้สารน้ำ 3% NaCl แบบเร็ว มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าอีกกลุ่มการศึกษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผลลัพธ์หลักพบว่าการเปลี่ยนแปลงของระดับโซเดียมในเลือดที่ 6 ชั่วโมงไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างสองกลุ่มการศึกษา และไม่พบความแตกต่างของระะดับความรู้สึกตัว ที่ 6 ชั่วโมงของผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มเช่นกัน ผลลัพธ์รองพบว่าระยะเวลาที่ทำให้ระดับโซเดียมในเลือดเพิ่มขึ้นมากกว่าหรือเท่ากับ 5 มิลลิโมล/ลิตร และระยะเวลาที่ทำให้อาการกลับสู่ปกติ ในกลุ่มให้สารน้ำ 3% NaCl แบบเร็ว มีแนวโน้มน้อยกว่ากลุ่มที่ให้สารน้ำ 3%NaCl แบบปกติ แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนี้ยังพบว่าอัตราการเกิดภาวะการแก้ไขโซเดียมเร็วกว่าปกติที่ชั่วโมงที่ 24 และ 48 ในผู้ป่วยกลุ่มได้รับสารน้ำ 3% NaCl แบบเร็ว มีแนวโน้มน้อยกว่าผู้ป่วยกลุ่มที่ได้รับสารน้ำ 3%NaCl แบบปกติ แต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ


สรุปผลการวิจัย: การรักษาภาวะโซเดียมในเลือดต่ำชนิดที่มีอาการรุนแรงด้วยการให้สารน้ำ 3%NaCl แบบเร็ว ทำให้การเพิ่มของระดับโซเดียมในเลือดและการเปลี่ยนแปลงของระดับความรู้สึกตัวที่ 6 ชั่วโมงไม่แตกต่างจากการให้สารน้ำ 3%NaCl แบบปกติจากการวิเคราะห์เบื้องต้น

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
หลานวงษ์ อ., & ลีลามะลิ ก. . (2022). ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษาผู้ป่วย ที่มีภาวะโซเดียมในเลือดต่ำชนิดที่มีอาการรุนแรง ด้วยวิธีการให้สารน้ำ 3%NaCl แบบเร็วเปรียบเทียบกับ การให้แบบปกติในโรงพยาบาลราชวิถี. วารสารสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย, 28(2), 68–80. สืบค้น จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JNST/article/view/258807
ประเภทบทความ
Original Article

เอกสารอ้างอิง

Spasovski G, Vanholder R, Allolio B, Annane D, Ball S, Bichet D, et al. Clinical practice guideline on diagnosis and treatment of hyponatraemia. Eur J Endocrinol. 2014;170(3): G1-47.

Ayus JC, Krothapalli RK, Arieff A I. Treatment of symptomatic hyponatremia and its relation to brain damage. A prospective study. N Engl J Med.1987 Nov 5;317(19): 1190-5.

Adrogu´ HJ, Madias NE. Hyponatremia. N Engl J Med.2000; 342(21):1581-9.

Sterns RH, Hix JK, Silver St. Treatment of hyponatremia. Curr Opin Nephrol Hypertens. 2010; 19(5):493-8.

Ball SG, Iqbal Z. Diagnosis and treatment of hyponatraemia. Best Pract Res Clin Endocrinol Metab. 2016; 30(2):161-73.

Sterns RH, Nigwekar SU,Hix JK. The treatment of hyponatremia. Semin Nephrol. 2009; 29(3):282-99.

Hegazi MO, Nawara A. Prevention and treatment of the osmotic demyelination syndrome. JSM Brain Sci.2016; 1:1004.

Lambeck J, Hieber M, Dreßing A, Niesen WD. Central pontine myelinolysis and osmotic demyelination syndrome. Dtsch Arztebl Int. 2019; 116: 600–6.

Bernard R. Fundamentals of biostatistics. 5thed: Duxbury Press; 2000.

Garrahy A, Dineen R, Hannon AM, Cuesta M, Tormey W, Sherlock M, et al. Continuous versus bolus infusion of hypertonic saline in the treatment of symptomatic hyponatremia caused by SIAD. J Clin Endocrinol Metab.2019; 104(9):3595-602.

Ellison DH, Berl T. Clinical practice. The syndrome of inappropriate antidiuresis. N Engl J Med. 2007;356(20):2064-72.

Filippone EJ, Ruzieh M, Foy A. Thiazide-Associated Hyponatremia: Clinical Manifestations and Pathophysiology. Am J Kidney Dis.2020; 75(2):256-64.

Baek SH, Jo YH, Ahn S, Medina-Liabres K, Oh Y K, Lee J B, et al. Continuous Versus Bolus Infusion of Hypertonic Saline in the Treatment of Symptomatic Hyponatremia Caused by SIAD. JAMA Intern Med.2021; 181(1):81-92.

Sterns RH, Osmotic demyelination syndrome (ODS) and overly rapid correction of hyponatremia. In: Emmett M, Forman JP, editors. UpToDate [Internet]. Waltham (MA): UpToDate Inc; 2021 [cited 2021 Apr 18]. Available from: https://www.uptodate.com/contents/osmotic-demyelinationsyndrome-ods-and-overly-rapid-correction-ofhyponatremia#H1791857537.

Mozes B, Pines A, Werner D, Olchovsky D, Lieberman P, Frankl O. Thiazide-induced hyponatremia: an unusual neurologic course. South Med J.1986; 79(5):629-31.