ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการขาดยาในผู้ป่วยวัณโรคปอดรายใหม่และกลับเป็นซ้ำ ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการขาดยาของผู้ป่วยวัณโรคปอดรายใหม่และกลับเป็นซ้ำในพื้นที่จังหวัดสระบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคือผู้ป่วยวัณโรคปอดรายใหม่และกลับเป็นซ้ำที่ขึ้นทะเบียนรักษาในระบบ National Tuberculosis Information Program (NTIP) ตั้งแต่ตุลาคม 2559 ถึงกันยายน 2562 ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่จังหวัดสระบุรี จำนวน 344 ราย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบบันทึกข้อมูลผู้ป่วยวัณโรคที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่ามัธยฐาน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าต่ำสุด และสูงสุด การเปรียบเทียบความแตกต่างของข้อมูลระหว่างกลุ่มที่ขาดยากับกลุ่มที่ไม่ขาดยาได้ใช้ Chi-square test และนำเสนอขนาดความสัมพันธ์ด้วย Odds ratio (OR) และช่วงความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95 (95%CI) และใช้สถิติวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple logistic regression) โดยนำเสนอขนาดความสัมพันธ์ด้วย Adjusted odds ratio () ช่วงเชื่อมั่นที่ร้อยละ 95 (95%CI) โดยกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 ผลการศึกษา พบว่า ผู้ป่วยวัณโรคปอดรายใหม่และกลับเป็นซ้ำ จำนวน 344 ราย พบว่า เป็นเพศชาย ร้อยละ 76.7 ส่วนใหญ่อายุ 45 - 54 ปี ร้อยละ 21.5 ไม่ประกอบอาชีพ ร้อยละ 62.5 สิทธิการรักษาประกันสุขภาพถ้วนหน้า ร้อยละ 66.3 ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีโรคร่วม ร้อยละ 92.4 ผู้ป่วยวัณโรคส่วนใหญ่เป็นผู้สัมผัสวัณโรค ร้อยละ 66.0 ผลการตรวจเสมหะส่วนใหญ่ 3+ ร้อยละ 29.7 และผลการเอกซเรย์ปอดส่วนใหญ่ไม่มีแผลโพรง ร้อยละ 58.4 ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับสูตรยามาตรฐาน (2HRZE/4HR) ร้อยละ 95.9 และไม่มีการกำกับการรับประทานยา ร้อยละ 63.4 พบผู้ป่วยขาดยารวม 86 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.0 เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการถดถอยพหุคูณ พบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการขาดยา ได้แก่ อายุน้อยกว่า 65 ปี (
5.059; 95% CI 1.199, 21.344) หนักตัวน้อยกว่า 35 กิโลกรัม (
106.795; 95% CI 32.572, 350.153) และเอกซเรย์ปอดไม่มีแผลโพรง (
4.483; 95% CI 1.874, 10.725) ข้อเสนอแนะ ผลการศึกษาครั้งนี้ สามารถเป็นแนวทางดำเนินงานป้องกันควบคุมวัณโรค โดยส่งเสริมการกำกับการรับประทานยาในผู้ป่วยวัณโรคทุกราย เพื่อลดการขาดยาในผู้ป่วยวัณโรคปอดรายใหม่และกลับเป็นซ้ำต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่ยังไม่สูงอายุ กลุ่มที่มีน้ำหนักตัวน้อย และกลุ่มที่เอกซเรย์ปอดพบไม่มีแผลโพรง ซึ่งมีแนวโน้มที่อาจขาดยา ควรได้รับการเฝ้าระวังและดูแลเป็นพิเศษ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
2.กรมควบคุมโรค สำนักวัณโรค. แนวทางการควบคุมวัณโรคประเทศไทย พ.ศ. 2561. กรุงเทพมหานคร: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2561.
3.National Tuberculosis Information Program [อินเตอร์เน็ต]. กรุงเทพมหานคร: สำนักวัณโรค; 2018. [เข้าถึงเมื่อ 1 ตุลาคม 2561].เข้าถึงได้จาก : https://tbcmthailand.net
4.จิระวรรณ พึ่งสกุล. อัตราการขาดยาและปัจจัยที่เกี่ยวข้องต่อการขาดยาของผู้ป่วยวัณโรคปอดรายใหม่ในระบบประกันสังคมของโรงพยาบาลเอกชน จังหวัดสมุทรปราการ. [วิทยานิพนธ์]. กรุงเทพ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย; 2548.
5.Garrido MdS, Penna ML, Perez-Porcuna TM, Souza ABd, MarreiroLdS, Albuquerque BC, et al. Factors Associated with Tuberculosis Treatment Default in an Endemic Area of the Brazilian Amazon: A Case Control-Study. PLoS One 2012; 7(6): e39134. https://doi.org/10.1371/journal.pone.0039134
6.อรทัย ศรีทองธรรม, อมรรัตน์ จงตระการสมบัติ, อุบลศรี ทาบุดดา, ศิริวรรณ อุทธา, ชุติมา ผลานันท์. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการขาดยาและรักษาล้มเหลวในผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาในพื้นที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารวิชาการสาธารณสุข. 2560; 26: S289-S298.
7.วราภรณ์ แสงวิเชียร, จิราพร คําแก้ว, ชญานิน กําลัง, ปริญดา จันทร์บรรเจิด, มยุรี พงศ์เพชรดิถ. ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราความสําเร็จในการรักษาวัณโรคปอด ในคลินิกวัณโรค โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี. วารสารเภสัชศาสตร์อีสาน 2558; 11(3): 83-91.
8.นรเทพ อัศวพัชระ. ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของการรักษาผู้ป่วยวัณโรคปอดในจังหวัดระนอง. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย 2561; 8(2): 200-211.
9. World Health Organization. Adherence to long-term therapies: evidence for action.Geneva: WHO; 2003.
10. Yamane Taro. Statistics: An Introductory Analysis. Third edition. New York: Harper and Row Publication; 1973.
11. วิลาวรรณ สมทรง. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับผลการรักษาวัณโรคในผู้ป่วยที่อายุ 60 ปีขึ้นไป. วารสารควบคุมโรค 2562; 45(2): 191-200.
12.สำนักวัณโรค กรมควบคุมโรค. คู่มือการให้การปรึกษาในงานวัณโรคและวัณโรคดื้อยา สำหรับบุคลากรสาธารณสุข.กรุงเทพมหานคร: อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์ ; 2560.
13. ไพฑูรย์ อุ่นบ้าน. การพัฒนาระบบการดูแลรักษาวัณโรคด้วยระบบยาระยะสั้นแบบมีพี่เลี้ยง (DOTS) ของโรงพยาบาลแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารสาธารณสุขล้านนา 2559; 12(1): 23-36.
14. สุรเดชช ชวะเดช. การพัฒนารูปแบบของการรักษาวัณโรคแบบมีพี่เลี้ยงกำกับ (DOT) อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย 2561; 8(3): 339-351.