ความปลอดภัยของการเจาะเก็บโลหิตของตนเองเพื่อใช้สำหรับการผ่าตัด ในกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีแนวโน้มความเสียงสูง

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ: โปรแกรมการเจาะเก็บโลหิตของตนเองเพื่อใช้สำหรับผ่าตัดได้ถูกนำมาใช้ในโรงพยาบาลราชวิถี โดยเจาะเก็บโลหิตผู้ป่วย1-2 ยูนิตก่อนการผ่าตัด ผู้ป่วยโรคหัวใจซึ่งจัดเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มความเสี่ยงสูงได้เข้าโปรแกรมนี้จำนวนมาก ภาวะแทรกช้อนระยะแรกของการเจาะเก็บโลหิตที่อันตรายคือการเปลี่ยนแปลงการไหลเวียโลหิตอย่างรุนแรง ซึ่งอาจเกิดจาก vasovagal reaction หรือเกิดจากพยาธิสภาพของหัวใจและหลออดเลือด นอกจากนี้ยังอาจเกิดปฏิกิริยาหลังการเจาะเก็บโลหิตในระดับความรุนแรงต่างๆกันได้ รานนี้ได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนโลหิตหลังการเจาะเก็บโลหิตเพื่อการผ่าตัด ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง 158 ราย 156 รายเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจ อีก 2 รายเป็นผู้ป่วยตั้งครรภ์ระยะไตรมาสที่สาม การเจาะเก็บโลหิตรวม 250 ครั้ง เปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีความเสี่ยง 79 ราย เจาะเก็บโลหิตรวม 107 ครั้ง หาความถี่ของการเปลี่ยนแปลงความดันโลหิต systoic หลังการเจาะเก็บ และบันทึกปฏิกิริยาหลังการเจาะเก็บโลหิตทั้งสองกลุ่ม ทำการวิเคราะห์ทางสถิติด้วย chi-square test พบว่าไม่มีความแตกต่างที่มีนัยสำคัญ สรุป  การเจาะเก็บโลหิตตนเองเพื่อใช้สำหรับผ่าตัดในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงเช่นโรคหัวใจในสภาวะที่มีการคัดเลือกและเตรียมผู้ป่วยอย่างดี ภายใต้การดูและของแพทย์และทีมอย่างใกล้ชิด มีความปลอดภัยเช่นเดียวกับกลุ่มผู้ป่วยอื่นที่ไม่มีความเสี่ยง และสามารถให้บริการผู้ป่วยได้อย่างกว้างขวางภายใต้การดูแลของแพทย์ธนาคารเลือด