ต้นทุนต่อหน่วยในการเจาะเก็บโลหิตของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ: บทนำและวัตถุประสงค์: ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติฯ มีหน้าที่หลักในการจัดหาโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ มีความปลอดภัยและมีคุณภาพสูงสุด นอกจากนั้นยังมีงานผลิตและงานบริการต่างๆ อีกมากมาย อาทิ การผลิตถุงบรรจุโลหิต การผลิตผลิตภัณฑ์จากโลหิต รวมทั้ง การผลิตน้ำยาตรวจหมูโลหิตและเซลล์มาตรฐาน เพื่อให้การบริทารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิกพและประสิทธิผล ศูนย์บริกรโลหิตแห่งชาติ จึงได้คำนวณต้นทุนต่อหน่วยของงานเจาะเก็บโลหิต
เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจ ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาต้นทุนต่อหน่วยในการเจาะเก็บโลหิตภายในและภายนอกสถานที่ รวมทั้งหาแนวทงที่หมาะสมในการเจาะก็บโลหิตเพื่อให้มีต้นทุนต่อหน่วยลดลง วัสดุและวิธีการ: ใช้วิธีการแยกประเภทต้นทุนตามหน้าที่ในการบริหารกิจการ และการแยกประเภทต้นทุนตามการผลิตและการดำเนินงาน ผลการศึกษา: พบว่าต้นทุนต่อหน่วยในการเจาะเก็บโลหิตของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติเท่ากับ 124.70
บาท (ไม่รวมค่าถุงบรรจุโลหิต) โดยมีต้นทุนต่อหน่วยในการเจาะเก็บโลหิตภายในสถานที่ เท่ากับ 86.08 บาท (ไม่รวมค่าถุงบรรจุโลหิต) ต้นทุนต่อหน่วยในการเจาะเก็บโลหิตนอกสถานที่ เท่ากับ 144 67 บาท (ไม่รวมค่าถุงบรรจุโสหิต) ดังนั้นจึงพบว่าการเจาะเก็บโลหิตภายนอกสถานที่ มีต้นทุนต่อหน่วยสูงกว่าการเจาะเก็บภายในสถานที่ถึง 58.59 บาท คิดเป็นร้อยละ 68.06 สรุป: จากการศึกษาพบว่าสาเหตุที่การออกไปเจาะเก็บโลหิตนอกสถานที่มีต้นทุนต่อหน่วยสูงกว่าภาย
ในสถานที่ เนื่องจากต้องเสียค่ใช้จ่ายเกี่ยวกับยานพาหนะ และเวลาที่ใช้ไประหว่างการเดินทาง ไป-กลับ ระหว่างศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ กับหน่วยเคลื่อนที่ ดังนั้นถ้ต้องการให้การเจาะเก็บโลหิตของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติมีต้นทุนต่อหน่วยต่ำลง ควรจะประชาสัมพันธ์ให้มีผู้บริจาคโลหิตภายในสถานที่มากขึ้น รวมทั้งในการออกหน่วยเคลื่อนที่แต่ละครั้งควรรณรงค์ให้มีผู้บริจาคโลหิตมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน