Recruitment and retention of voluntary blood donors during the COVID-19 pandemic

Abstract

Abstract:

Introduction: COVID-19 pandemic has resulted in declining blood donations and a prolonged cumulative blood shortage. It caused the postponement of surgeries and medical treatments for patients, which can be life-threatening. Objective: This study aimed to determine the donor characteristics and frequency of blood donation during the COVID-19 pandemic. Materials and Methods: In a retrospective cohort study, data were collected from the blood donation application forms in 2021. The 15,868 donors were divided according to various characteristics: age, gender, occupation, type of blood components, complications of donations, ABO, and Rh blood group. Blood donors were divided into two large groups; first-time and repeat blood donors which were subdivided into 2, 3, 4, and equal to or more than five donations. Results: Donors aged 17 – 29, females, and government officers, were the groups with the highest number among blood donors. The characteristics of blood donation were whole blood 99.27%, blood group O 37.57%, and RhD-positive 99.40%. Significant associations between blood donation during the pandemic and age, gender, and occupation were found. Conclusion: Adolescents, females, and government officers were the groups with the highest number among blood donors, both first-time and repeat blood donors. Therefore, the issuance of mobile blood donation units among these donor groups will help increase blood inventory during the COVID-19 pandemic or blood shortages.

บทคัดย่อ:

บทนำ  การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลให้การบริจาคโลหิตลดลงและเกิดการขาดแคลนโลหิตสะสมเป็นเวลานาน ทำให้ผู้ป่วยต้องเลื่อนการผ่าตัดและการรักษาพยาบาลออกไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาคุณสมบัติของผู้บริจาคโลหิตและความถี่ของการบริจาคโลหิตในช่วงการระบาดของโควิด-19  วัสดุและวิธีการ การศึกษาแบบย้อนหลัง โดยเก็บข้อมูลจากใบสมัครผู้บริจาคโลหิตในปี พ.ศ. 2564 จำนวน 15,868 ราย นำมาแบ่งตามลักษณะต่างๆ ได้แก่ อายุ เพศ อาชีพ ชนิดของส่วนประกอบของโลหิต ภาวะแทรกซ้อนจากการบริจาคโลหิต หมู่โลหิตระบบ ABO และ Rh นอกจากนี้ยังแบ่งผู้บริจาคโลหิตแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ ผู้บริจาคโลหิตครั้งแรกและผู้บริจาคโลหิตประจำ มีการบริจาค ซึ่งแบ่งออกเป็น 2, 3, 4 และมากกว่าหรือเท่ากับ 5 ครั้ง ผลการศึกษา ผู้บริจาคโลหิตอายุ 17–29 ปี เพศหญิง กลุ่มอาชีพข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พนักงานรัฐวิสาหกิจ เป็นกลุ่มที่บริจาคโลหิตมากที่สุด และพบว่าโลหิตที่บริจาคเป็นชนิดโลหิตครบส่วน ร้อยละ 99.27 มีหมู่โลหิตโอ ร้อยละ 37.57 และหมู่โลหิต RhD-positive ร้อยละ 99.40 และพบความสัมพันธ์ที่มีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างการบริจาคโลหิตในช่วงโรคระบาดกับอายุ เพศ และอาชีพของผู้บริจาคโลหิต  สรุป วัยรุ่น สตรี และข้าราชการ เป็นกลุ่มที่เป็นผู้บริจาคโลหิตสูงสุดทั้งในกลุ่มการบริจาคโลหิตครั้งแรกและบริจาคเป็นประจำ ดังนั้นในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 หรือขาดแคลนโลหิตจึงควรออกหน่วยเคลื่อนที่เพื่อรับบริจาคโลหิตจากผู้บริจาคกลุ่มดังกล่าว