ประสิทธิผลของการใช้จำนวน CD34+ mononuclear cell ในกระแสเลือดเป็นตัวชี้นำในการเริ่มต้นกระบวนการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในกระแสเลือด

Abstract

Abstract:

Introduction: Initiation of a harvesting process of peripheral blood stem cell (PBSC) using peripheral blood absolute CD34+ mononuclear cell (MNC) number as an indicator is an accepted standard but the process in detail has some degree of difference between transplant centers. Objective: This study aimed to demonstrate the outcome and detail of the process abovementioned from a single hematopoietic stem cell transplant unit. Materials and Methods: Data from patients who were sent to harvest PBSC by using MNC apheresis technique at Naresuan University Hospital, between January 2013 and December 2021, were analyzed for the relationship between peripheral blood and product CD34+ MNC, time to initiate harvesting process, proportion of patients with sufficient stem cell collection, and including analysis between myeloma and lymphoma patients. Results: PBSC harvesting was performed in 90 patients including 48 and 42 patients diagnosed with myeloma and lymphoma, respectively. A total of 116 collections were conducted. Median time to initiate harvesting process was on day 9 (range: 7-15) after chemotherapy. Median peripheral blood absolute CD34+ MNC number on the first morning of collection was 66 (range: 3-479) cell/mm³. Peripheral blood CD34+ MNC number was well correlated with that in harvesting product (r=0.67, p<0.01). Seventy-one patients (78.9%) were able to collect enough PBSC within one collection. Lymphoma patients required more episode of harvesting than myeloma. Eventually, all 90 patients received PBSC transplantation. Conclusion: Using a number of peripheral blood CD34+ MNC as an indicator to initiate PBSC harvesting process is effective and practical.

บทคัดย่อ

บทนำ การเก็บเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในกระแสเลือด (peripheral blood stem cell; PBSC) โดยใช้จำนวน CD34+ mononuclear cell (MNC) เป็นตัวชี้นำในการเริ่มต้นขั้นตอนการเก็บเซลล์ในกระบวนการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดเป็นระบบดำเนินการที่เป็นมาตรฐานแต่ยังมีรายละเอียดที่แตกต่างกันในแต่ละสถาบัน วัตถุประสงค์ เพื่อนำเสนอผลลัพธ์จากการใช้วิธีการดังกล่าวรวมทั้งรายละเอียดของกระบวนการซึ่งได้จากหน่วยปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดแห่งหนึ่ง วัสดุและวิธีการ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของจำนวน CD34+ MNC ในกระแสเลือดและในผลิตภัณฑ์ที่เก็บได้ วันที่เริ่มเก็บเซลล์หลังสิ้นสุดการให้เคมีบำบัด สัดส่วนของผู้ป่วยที่สามารถเก็บเซลล์ได้เพียงพอ รวมทั้งวิเคราะห์แยกระหว่างผู้ป่วย myeloma และ lymphoma ในผู้ป่วยที่เข้ารับการเก็บ PBSC ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ด้วยวิธี MNC apheresis ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2556 ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564  ผลการศึกษา มีผู้ป่วยที่ทำการเก็บ PBSC ทั้งสิ้น 90 ราย เป็นผู้ป่วย myeloma 48 ราย lymphoma 42 ราย ทำการเก็บเซลล์ทั้งสิ้น 116 ครั้ง โดยค่ามัธยฐานของวันแรกที่เริ่มดำเนินการเก็บเซลล์อยู่ที่วันที่ 9 (พิสัย: 7-15) หลังสิ้นสุดการให้เคมีบำบัดและเริ่มกระตุ้นเม็ดเลือดขาวด้วย granulocyte-colony stimulating factor จำนวน CD34+ MNC ในกระแสเลือดในเช้าวันที่เริ่มเก็บเซลล์ 66 (พิสัย: 3-479) เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร (cell/mm³) จำนวน CD34+ MNC ในกระแสเลือดมีความสัมพันธ์อย่างชัดเจนกับจำนวน CD34+ MNC ที่เก็บได้ในผลิตภัณฑ์ (r=0.67, p<0.01) ผู้ป่วย 71 ราย (ร้อยละ 78.9) สามารถเก็บเซลล์ได้เพียงพอโดยทำการเก็บเพียงครั้งเดียว ผู้ป่วย lymphoma ใช้จำนวนครั้งในการเก็บเซลล์มากกว่า myeloma ซึ่งในท้ายที่สุด ผู้ป่วยทั้ง 90 รายได้รับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด สรุป  การใช้จำนวน CD34+ MNC ในกระแสเลือดเป็นตัวชี้นำในการเริ่มต้นการเก็บเซลล์เป็นระบบดำเนินการที่มีประสิทธิภาพและนำไปใช้ได้จริง