Interstitial Pneumonitis: A Rare Manifestation of Kikuchi-Fujimoto Disease

ผู้แต่ง

  • Thiti Asawapanumas
  • Kitsada Wudhikarn
  • Udomsak Bunworasate

คำสำคัญ:

Kikuchi Fujimoto Disease, Lymphadenopathy, Interstitial pneumonitis

บทคัดย่อ

ที่มาและความสำคัญ โรค คิคูชิฟูจิโมโต (Kikuchi-Fujimoto Disease ; KFD or subacute histiocytic necrotizing lymphadenitis) เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้น้อยของคนไข้ที่มีอาการต่อมน้ำเหลืองโต โดยสาเหตุการเกิดของโรคคิคูชิฟูจิโมโต ปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับภาวะหลังการติดเชื้อไวรัสและระบบภูมิต้านทานของผู้ป่วย ส่วนมากผู้ป่วยจะมีอาการไข้และต่อมน้ำเหลือง โตเป็นๆ หายๆ โดยเฉพาะต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วย คิคูชิฟูจิโมโต บางรายที่มาด้วยอาการซึ่งพบได้ไม่บ่อย เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ตับอักเสบ ม่านตาอักเสบ รวมถึง ภาวะเนื้อเยื่อระหว่างถุงลมปอดอักเสบ ซึ่งภาวะดังกล่าว มีรายงานการพบได้น้อยมากในคนไข้โรคคิคูชิฟูจิโมโต ในที่นี้จึงได้รายงานคนไข้ในโรคคิคูชิฟูจิโมโต ที่มาด้วยอาการเนื้อเยื่อระหว่างถุงลมปอดอักเสบ ตัวอย่างผู้ป่วย ผู้ป่วยหญิง อายุ 32 ปี มาด้วยอาการไข้เรื้อรัง และ ต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณคอ ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยเป็น โรคคิคูชิฟูจิโมโต ซึ่งยืนยันการวินิจฉัยทางพยาธิวิทยาโดยการตัดต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอพบโรคดังกล่าว ผู้ป่วยรายนี้มีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไข้และต่อมน้ำเหลืองโตเป็นๆ หายๆ สอดคล้องกับการได้รับการรักษาด้วยสเตียรอยด์ หลังจากติดตามการรักษาต่อเนื่อง ผู้ป่วยมีอาการหายใจหอบเหนื่อยมากขึ้น มีไอ และ ออกซิเจนในเลือดต่ำ ผู้ป่วยได้รับการตรวจวินิจฉัยด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบลักษณะทึบผิดปกติแบบกระจกฝ้ากระจายทั่วทั้งปอดสองข้าง และมีจุดบริเวณเนื้อเยื่อระหว่างถุงลมปอด มีการตรวจสืบค้นเพิ่มเติม สำหรับสาเหตุการติดเชื้อ ซึ่งผลปกติทั้งหมด หลังจากผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยสเตียรอยด์ อาการโดยรวมของผู้ป่วยทั้งหมดดีขึ้น และ ติดตามการตรวจด้วยเอกซเรย์ไม่พบร่องรอยความผิดปกติ สรุป ถึงแม้อาการ เนื้อเยื่อระหว่างถุงลมปอดอักเสบ จะพบได้น้อยในคนไข้คิคูชิฟูจิโมโตก็ตาม แต่แพทย์ควรนึกถึงภาวะแทรกซ้อนนี้ เพื่อที่จะได้รับการวินิจฉัยและให้การรักษาที่เหมาะสมแก่ผู้ป่วยได้ทันท่วงที

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

1. Kikuchi M. Lymphadenitis showing focal reticulum cell hyperplasia with nuclear debris and phagocytosis. Nippon Ketsueki Gakkai Zasshi. 1972;35:379-80.
2. Fujimoto Y, Kozima Y, Yamaguchi K. Cervical subacute necrotizing lymphadenitis: a new clinicopathologic entity. Naika. 1972;20:920-7.
3. Sopena B, Rivera A, Vazquez-Trinanes C et al. Autoimmune manifestations of Kikuchi disease. Semin Arthritis Rheum. 2012;41:900-6.
4. Garcia-Zamalloa A, Taboada-Gomez J, Bernardo-Galan P et al.Bilateral pleural effusion and interstitial lung disease as unusual manifestations of Kikuchi-Fujimoto disease: case report and literature review. BMC Pulm Med. 2010;10:54.
5. Hua F, Zhu L. Kikuchi Fujimoto disease associated with cryptogenic organizing pneumonia: case report and literature review. BMC Infect Dis. 2010;10:64.
6. Wong CY, Law GT, Shum TT et al. Pulmonary haemorrhage in a patient with Kikuchi disease. Monaldi Arch Chest Dis. 2001;56:118-20.
7. Bosch X, Guilabert A, Miquel R, Campo E. Enigmatic Kikuchi-Fujimoto disease: a comprehensive review. Am J Clin Pathol.2004;122:141-52.
8. Bogusz AM, Bhargava P. Recurrent histiocytic necrotizing lymphadenitis with a long latency in a patient with autoimmunity: a case report and review of literature. Int J Surg Pathol. 2013;21:
287-96.
9. Sah SK, Pant R, Piper K, et al. Recurrent Kikuchi-Fujimoto disease: case report. Br J Oral Maxillofac Surg. 2007;45:231-3.
10. Song JY, Lee J, Park DW, et al. Clinical outcome and predictive factors of recurrence among patients with Kikuchi’s disease. Int J Infect Dis. 2009;13:322-6.
11. Kumar TS, Scott JX, Agarwal I, Danda D. Management of Kikuchi disease using glucocorticoids. J Clin Rheumatol. 2006;12:47.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-09-26

ฉบับ

ประเภทบทความ

รายงานผู้ป่วย (Case report)